ธ.ก.ส. ร่วมเติมศักยภาพชาวนารุ่นใหม่
ธ.ก.ส.หนุนมูลนิธิข้าวไทย ดึงศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่ เพิ่มขีดการแข่งขันการพัฒนาข้าว ตั้งเป้านำความรู้เทคโนโลยีทันสมัยสู่การปฏิบัติ พร้อมตั้งวงเงินสินเชื่อหนุนเต็มที่ 1-20 ล้าบาท/ราย ดอกเบี้ย 4% ด้าน “ดร.สุเมธ” เผย เพื่อนบ้านอาเซียนขอร่วมแจม “แคมป์ข้าว” ยกระดับอาชีพเกษตรกร-ชาวนา
วันนี้ (2 กันยายน 2562) ณ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมการผลิตและพัฒนาชาวนาไทย” ระหว่าง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อส่งเสริมการผลิตและพัฒนาศักยภาพชาวนาไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการผลิตและพัฒนาชาวนาไทยรุ่นใหม่ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการพัฒนาข้าวไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ปธ.กก.มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวระหว่างลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมการผลิตและพัฒนาชาวนาไทย” กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า มีเป้าหมายเพื่อมุ่งส่งเสริมการพัฒนาการผลิตข้าว การค้าข้าว และชาวนาไทย โดยเชื่อมโยง ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน กลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ในการจัดทำโครงการต่างๆ ร่วมกัน
รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาข้าวไทยอย่างครบวงจร เช่น การจัดทำโครงการค่ายอนุชนชาวนาไทยเพื่อสร้างชาวนาไทยรุ่นใหม่ การจัดประกวดนวัตกรรมข้าวไทย การร่วมแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดความรู้เรื่องข้าวที่เหมาะสมถูกต้อง การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลด้านข้าวให้ชาวนาไทยและสร้างฐานข้อมูลเรื่องข้าวอย่างครบวงจร ทั้งข้อมูลองค์กรผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักวิชาการและนักวิจัยด้านข้าว เพื่อให้บุคคลผู้สนใจสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเรื่องข้าวได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
“กิจกรรมแคมป์ข้าวที่เราจัดขึ้นมาในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเชิญชวนเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานเกษตรกรชาวไร่ชาวนาเข้าร่วมโครงการฯ ได้รับความสนใจจากประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ส่งคนมาขอดูงานและเข้าร่วมโครงการ ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้มีส่วนร่วมสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ขึ้นมา” ดร.สุเมธ ย้ำและว่า มากกว่านั้น เมื่อคนรุ่นใหม่เข้าสู่กระบวนการเกษตรกรรมที่มีการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการผลิต โอกาสที่จะยกระดับให้อาชีพเกษตรกรมีอนาคตและความมั่นคง รวมถึงมีฐานข้อมูลด้านการเกษตร เพื่อใช้การวางแผนการผลิตและการตลาดในอนาคต
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การประสานความร่วมมือกันในครั้งนี้ มุ่งเน้นการส่งเสริมชาวนาไทยรุ่นใหม่ โดยร่วมกันปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของข้าว วัฒนธรรมการผลิตและการบริโภคข้าวต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและเศรษฐกิจของชาติ ควบคู่การสนับสนุนให้บุตรหลานชาวนาได้เรียนรู้เทคโนโลยีและการทำนาที่ทันสมัย ผ่านระบบการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนการสร้างชาวนาไทยรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น การประชุมเวทีข้าวไทย การประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ จัดโครงการคัดเลือกชาวนาตัวอย่างร่วมกับองค์กรภาคี ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกร ชุมชน วิสาหกิจชุมชนนำนวัตกรรมข้าวจากการประกวด พัฒนา ต่อยอด นำความรู้ด้านเทคโนโลยีไปสู่การปฏิบัติจริง เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพทำนา
“เรามีแผนระยะยาวในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถ ทั้งการผลิตและแข่งขันของเกษตรกรไทย โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่พบว่ามีการเข้าสู่ระบบเกษตรกรรม แม้พื้นฐานคนกลุ่มจะจบวิศวกร บัญชี-การเงิน หรืออาชีพอื่นๆ มาก่อน โดยจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ พัฒนา ต่อยอด และอื่นๆ เพื่อให้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้การทำการเกษตรอย่างยั่งยืน พร้อมกับให้สินเชี่อในส่วนที่เกี่ยวกับนวัตกรรมการเกษตรให้ครบวงจร” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ทำการปล่อยสินเชื่อในส่วนนี้ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เอสเอ็สอีเพื่อการเกษตร ที่มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำ และเอสเอ็มอี ที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปสินค้าเกษตรและรวบรวมสินค้าเกษตรเพื่อการจัดจำหน่าย โดยปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มนี้ตั้งแต่ปี 59 โดยมีสินเชื่อคงค้างรวม 3.03 แสนล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนการชำระคืนและปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ก็อยู่ในวงเงินนี้ วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 1-20 ล้านบาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่เกิน 4% แต่หากวงเงินสินเชื่อเกินกว่า 20 ล้านบาท จะคิดอัตราดอกเบี้ย 5% ขึ้นไป.