สิงคโปร์แอร์ไลน์กำไรหดแม้รายได้พุ่ง
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. สิงคโปร์แอร์ไลน์รายงานรายได้ประจำปีที่สูงที่สุดจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นคิดเป็นเกือบครึ่งของผลกำไร
โดยรายได้เติบโต 3.3% เป็น 16,320 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ( 382,540 ล้านบาท) ในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 7.2%
จำนวนผู้โดยสารเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มสายการบินซึ่งประกอบด้วยสิงคโปร์แอร์ไลน์ ซิลค์แอร์ และสกู๊ต มีรายได้เติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 83%
โดยกำไรสุทธิของสายการบินลดลง 47.5% ลงมาอยู่ที่ 682.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ( 16,002 ล้านบาท ) จากเดิม 1,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีก่อน
รายจ่ายของกลุ่มเพิ่มขึ้น 7% หรือ 999 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นคิดเป็น 2 ใน 3 ของรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยรายจ่ายด้านราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 17.6% หรือ 688 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 21.6% ในระหว่างปี
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน สายการบินยังเสริมว่า “ค่าใช้จ่ายด้านการเงินเพิ่มขึ้น เนื่องจากทางกลุ่มมีการกู้ยืมเงินมากขึ้นในระหว่างปีเพื่อซื้อเครื่องบิน”
โดยค่าใช้จ่ายบางส่วนมาจากการซื้อเครื่องบินฝูงใหม่ของซิลค์แอร์ ซึ่งเปลี่ยนจากแอร์บัสมาเป็นโบอิ้ง รวมทั้งการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายเนื่องจากต้องเตรียมตัวควบรวมกิจการซิลค์แอร์เข้ากับสายการบินแม่
ซิลค์แอร์ต้องจอดเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 8 ในเดือนมี.ค.หลังจากเครื่องรุ่นนี้ของเอธิโอเปียแอร์ไลน์ตก คร่าชีวิตทุกคนบนเครื่องทั้งหมด 157 คน เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งที่ 2 สำหรับเครื่องรุ่น Max 8 ในรอบ 6 เดือน
สายการบินแห่งชาติของสิงคโปร์ระบุว่า ยอดจองตั๋วในอีกหลายเดือนข้างหน้าชี้ให้เห็นถึงดีมานด์ที่แข็งแกร่ง แต่เตือนเกี่ยวกับผลกระทบของกรณีพิพาททางการค้า และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในตลาดสำคัญ
โดยสายการบินระบุว่า ตลาดสำคัญส่วนใหญ่ยังคงมีการเติบโตในอัตราที่ดี ทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และนิวซีแลนด์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเติบโตของการเดินทางต่างประเทศของจีนเบาบางลง
สิงคโปร์แอร์ไลน์คาดการณ์ว่าผู้โดยสารของทางกลุ่มมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ 6% ลดลงต่ำกว่า 6.4% ในปีงบประมาณที่แล้ว โดยเหตุผลสำคัญเกี่ยวข้องกับเครื่องบินโบอิ้ง 747 Max 8 และเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ Trent 1000 Ten
ในเดือนเม.ย.ทางสายการบินได้ระงับการทำการบินด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 10 ลำซึ่งใช้เครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ Trent 1000 TEN หลังจากตรวจสอบพบการเสื่อมสภาพของใบพัดก่อนกำหนด
“ ทางกลุ่มหวังว่าจะทำให้ผู้โดยสารมั่นใจในความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเครื่องบินและเครื่องยนต์ที่ผ่านการตรวจสอบจะกลับไปให้บริการดังเดิม” สายการบินระบุ
ทั้งนี้ ทางบอร์ดบริหารแนะนำให้จ่ายเงินปันผล 22 เซนต์ต่อหุ้นในปีงบประมาณนี้.