สิงคโปร์เซ็นดีล BRI กับจีน
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.สิงคโปร์และจีนลงนามใน 5 ข้อตกลง ที่ทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นในการประสานความร่วมมือทางการค้า การบังคับใช้กฎหมายและโครงการภายใต้นโยบาย Belt and Road Initiative
มีการลงนามหลังจากนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงแห่งสิงคโปร์มีการประชุมกับนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีน โดยก่อนหน้านี้ นายกฯลียังได้พบกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนที่มหาศาลาประชาชนด้วย
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ปิดดีลกับหุ้นส่วน ซึ่งก็คือนายกเทศมนตรีแห่งนครเซี่ยงไฮ้เพื่อจัดตั้งสภาความร่วมมือสิงคโปร์ – เซี่ยงไฮ้
โดยทั้งสองฝ่ายจะมีความร่วมมือใน 6 ประเภท คือ Belt and Road Initiative , ความร่วมมือบริการทางการเงิน , เทคโนโลยีและนวัตกรรม , การผ่อนคลายในการทำธุรกิจ , ระบบบริหารกิจการเมือง และการแลกเปลี่ยนด้านประชาชน
สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางในการลงทุนต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดสำหรับจีนในปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าการลงทุนเกือบ 23% จากมูลค่าการลงทุนทั้งหมดจากจีนสำหรับโครงการ Belt and Road Initiative
สิงคโปร์และจีนมีความร่วมมือกันในตลาดประเทศที่ 3 ในหลายภาคส่วน ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การเงิน ไปจนถึงบริการเฉพาะกิจ ตัวอย่างเช่น DBS , Bank of China , บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำระดับโลกและบริษัทโลจิสติกส์ของจีน Yantai Port ได้ร่วมลงทุนโรงกลั่นในอินโดนีเซีย
ศุลกากรสิงคโปร์ยังได้ลงนามในสองข้อตกลงกับคู่ค้าจีนในความร่วมมือใกล้ชิดเพื่อการติดตามผู้ต้องสงสัยและจัดการระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล
โดยในข้อตกลงแรก ทั้งสองฝ่ายจะแชร์ข้อมูลที่จัดเก็บจากอุปกรณ์และเทคนิคใหม่ขณะที่ MOU ที่สอง จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่บรรลุข้อตกลงกันภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีจีน – สิงคโปร์ที่มีการลงนามไปเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ระบบนี้จะอนุญาตให้มีการถ่ายโอนข้อมูลด้านการค้า และบริษัทไม่ต้องยื่นเอกสาร โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
ทั้งนี้ Surbana Juring ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลสิงคโปร์และกองทุน Silk Road ของรัฐบาลจีน ยังได้ลงนามในข้อตกลงการร่วมลงทุน โดยทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งแพลตฟอร์มร่วมทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่จะเป็นกองทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.