“สมคิด”ชี้อนาคตประเทศไทย
สมคิดชี้อนาคตประเทศไทย ภายใต้ 3 ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ มั่นใจปีนี้ อยู่รอดได้ แต่ปีหน้าต้องรัฐบาลเร่งรัดโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
“ผมได้ชี้แจงนักลงทุนว่าไทยมีระบอบประชาธิปไตยไม่มีระบอบอื่นๆ เพียงแต่บางครั้งประชาธิปไตยอาจสะดุดลงบ้าง เพราะหากดำเนินปกติต่อไปแล้วสังคมอยู่ไม่ได้” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในงานปาฐกถา “รุก-รับ อย่างไรให้เศรษฐกิจไทย…สู้ได้ในเวทีโลก” จัดโดยคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 2552 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2558
“ตอนที่ไปโรดโชว์ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย.ที่ผ่านมา ผมได้อธิบายให้นักลงทุนญี่ปุ่นมีความเข้าใจ และผมก็หวังว่าประเทศอื่นๆ จะเข้าใจเหมือนกันในที่สุด”
หลังจากนั้นเช้าวันอาทิตย์ (29 พ.ย.58) ผมก็เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี โดยมีนักธุรกิจไทยจากหอการค้าทั่วประเทศเข้าร่วม งานสัมมนาประจำปี โดยงานในวันนั้น มีการให้คำปฏิญาณว่า จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีหนี้ ให้เติบโต 4% ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลับมามีเอกภาพอีกครั้งเป็นเรื่องน่ายินดี
นายสมคิด กล่าวว่า นับจากนี้ไป อยากให้แต่ละฝ่ายลดทอนความกังวลลง เพราะในช่วง 3เดือนที่ผ่านมา (ส.ค.) ตนได้ทำงานอย่างเต็มที่ และเห็นว่าปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้แม้ว่า จะไม่ได้ร้ายแรงเท่ากับปี 2540 ตอนที่ฟองสบู่แตก แต่ก็ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากมาตรการต่างๆ จึงจำเป็นต้องเข็นมาตรการช่วยเหลือคนจนออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อพยุงเศรษฐกิจ และยังทำให้เศรษฐกิจในปีนี้ ไม่ให้ทรุดต่ำไปมากกว่านี้ โดยคาดว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในระดับ 2.9% และจะเติบโตต่อเนื่องขึ้นในไตรมาสหนึ่งปี 2559
โดยตั้งความหวังว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 และ 3 ของปีหน้า จะมีโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐก็จะเข้ามาช่วยขับ เคลื่อนเศรษฐกิจ จึงได้เร่งรัดไปยังกระทรวงคมนาคมให้เร่งโครงการลงทุน 1.7 ล้านล้านบาทโดยเร็ว
นายสมคิด กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้นแต่จะไม่เติบโตอย่างทันทีทันใด เพราะเศรษฐกิจในปีนี้ และปีหน้า ยังอยู่ในช่วงขาลง การจะให้เศรษฐกิจไทยเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องยากมาก แต่รัฐบาลก็ความมั่นใจ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด
ในอนาคตประเทศไทยจะรุกหรือรับอย่างไรในเวทีโลกนั้น ต้องพิจารณา 3 ปัจจัยพร้อมๆ กันได้แก่ 1. สถานภาพทางการเมืองของประเทศไทยในสายตาเวทีโลก 2. การเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และ 3. การที่เศรษฐกิจไทยจะไปได้หรือ ไม่อยู่ที่ผู้ประกอบการ หรือนักรบทางเศรษฐกิจ
