GDP สิงคโปร์ต่ำสุดในรอบ 2 ปี
เศรษฐกิจสิงคโปร์ชะลอตัวมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปีในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ก.พ. และรมว.กระทรวงการค้าเตือนว่าการผลิตมีแนวโน้มจะซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้
โมเมนตัมการเติบโตที่อ่อนแรงลงสำหรับสิงคโปร์ที่มีเศรษฐกิจเปิดกว้างเป็นฐานการผลิตสินค้าเทคโนโลยีสูงและเป็นฮับในการคมนาคมขนส่ง เน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่สิงคโปร์กำลังเผชิญเนื่องจากเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง ขณะที่สงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯยังดำเนินต่อไป
คาดการณ์ว่าตัวเลขการเติบโตของสิงคโปร์จะชะลอตัวลงในปี 2562 เนื่องจากการผลิต “มีแนวโน้มจะซบเซาลง” เจ้าหน้าที่กระทรวงการค้าระบุ โดยเสริมว่าภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญอาจอ่อนแรงลงบางส่วน ขณะที่ภาคบริการ ซึ่งคิดเป็น 70% ของเศรษฐกิจ ก็มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงเช่นกัน
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเติบโต 1.9% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ 2.2% ของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MTI) นับเป็นการชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2559 ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 1.2%
ในเดือนต.ค. – ธ.ค. เศรษฐกิจเติบโต 1.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าที่กระทรวงคาดการณ์เมื่อวันที่ 2 ม.ค.คือ 1.6%
โดยกระทรวงระบุว่า เศรษฐกิจเติบโต 3.2% สำหรับปี 2561 เมือ่เทียบกับตัวเลขคาดการณ์คือ 3.3%
ทำให้ตัวเลขคาดการณ์ GDP ของสิงคโปร์ในปี 2562 นี้ อยู่ที่ 1.5 – 3.5% แต่เสริมว่า การเติบโตมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย “เศรษฐกิจสิงคโปร์พึ่งพาการส่งออกอย่างมาก เราเห็นถึงแนวโน้มปัจจัยภายนอกที่อ่อนแรงลงในปัจจุบัน และเซมิคอนดักเตอร์ที่ชะลอตัวลง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้แนวโน้ม 2.5% ของเรา”
สำหรับทั้งปี 2561 การส่งออกของสิงคโปร์ในส่วนสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันมีการขยายตัวอยู่ที่ 4.2% แต่ที่เห็นชัดเจนคือ ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันที่ส่งออกไปจีนดิ่งลงถึง 8.8% เมื่อเทียบกับตัวเลขเติบโต 31.1% ในปี 2560
ทางกระทรวงระบุว่า อาจเป็นเพราะมีการเทียบกับปีก่อนหน้านี้ที่ตัวเลขสูงมาก แต่นักวิเคราะห์บางคนระบุว่า อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณของผลกระทบที่มาจากสงครามการค้า
ทั้งนี้ กระทรวงคาดการณ์ว่า การเติบโตของการส่งออกโดยรวมในปีนี้ของสิงคโปร์จะอยู่ที่ 0 – 2.0%.