คนจีนในสิงคโปร์มีเอกลักษณ์/พัฒนาตลอด
อัตลักษณ์ของคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนจะค่อยๆพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนกับประเพณีของชุมชนที่มีการพัฒนาและเจริญขึ้นมาตลอดหลายปี นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงแห่งสิงคโปร์กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันตรุษจีนเมื่อวันที่ 4 ก.พ.
บรรดาผู้อพยพมาที่สิงคโปร์หลังจากการก่อตั้งท่าเรือเสรีของเซอร์สแตมฟอร์ด แรฟเฟิล ล้วนแต่ยากจนเกินกว่าจะเดินทางกลับบ้านในช่วงตรุษจีน นายกฯลีกล่าว โดยเสริมว่า พวกเขาจึงฉลองกันในบรรดาแรงงาน ฟื้นฟูธรรมเนียมปฏิบัติขึ้นมาใหม่ เช่น กินอาหารที่เป็นมงคล มีการแสดงเชิดสิงโตสำหรับคนมีฐานะดี และจุดประทัดเพื่อขับไล่ความชั่วร้าย
เป็นเวลานานหลายปีที่ชาวจีนในสิงคโปร์ได้พัฒนาขนบธรรมเนียมและประเพณีของตัวเองขึ้นมาสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายกฯลีระบุ โดยอ้างถึง ประเพณี โลเห่ ( การโยนเส้นบะหมี่ขึ้น พร้อมพูดคำมงคลในระหว่างโยน และกินเส้นบะหมี่เมื่อตกลงมา ) ในการรับประทานอาหารเย็นพร้อมหน้ากัน โดยมีทาร์ตสับปะรดและคุกกี้มะพร้าวเป็นขนมกินเล่น “ เป็นการสะท้อนถึงมรดกของชาวจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ”
ในช่วงปี 2513 ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนหยุดจุดประทัด “ เพราะในชุมชนและมืองที่หนาแน่น นี่เป็นเรื่องอันตรายกับคนและทรัพย์สิน ” ผู้นำสิงคโปร์กล่าว “ เพื่อให้ได้ความรู้สึกของการเฉลิมฉลอง เราเริ่มจัดให้มีขบวนชินเกพาเหรดในปี 2516” เขากล่าว โดยเสริมว่า ขบวนพาเหรดค่อยๆมีการพัฒนาจากวัฒนธรรมจีนเป็นหลัก จนตอนนี้กลายเป็นการเฉลิมฉลองสำหรับประชาชนทุกเชื้อชาติและทุกวัย”
“ การพัฒนาของทุกเชื้อชาติช่วยทำให้เกิดเป็นความสุขพิเศษและความสมบูรณ์ให้กับเทศกาล และสะท้อนถึงสังคมพหุวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของเรา ” นายกฯลีระบุ
โดยเขากล่าวว่า วิธีการที่สิงคโปร์เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนที่ค่อยๆพัฒนาและเกิดใหม่ขึ้นมาในช่วงเวลาหลายปี
“ คนสิงคโปร์เชื้อสายจีนได้บูรณาการจนกลายเป็นการรวมกันของคนหลายเชื้อชาติที่มีจำนวนมากขึ้น ในกระบวนการวิวัฒน์ของคนจีนในสิงคโปร์แตกต่างจากชุมชนจีนที่อื่น ทั้งสังคมคนจีนในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน และชนกลุ่มน้อยชาวจีนที่พลัดถิ่นในต่างประเทศ ทั้งในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศตะวันตก” นายกฯลีกล่าว
โดยเขาระบุว่า “ คนรุ่นใหม่และผู้อพยพกลุ่มใหม่จะเข้ามารวมกับเรา อัตลักษณ์ของคนสิงคโปร์จะมีการพัฒนาต่อไป
“ โดยผู้ที่มาใหม่จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้มรดกทางวัฒนธรรมของเรา ด้วยประสบการณ์ชีวิตและมุมมองที่แตกต่าง ” เขาเสริม
“ ขณะเดียวกัน ผมหวังว่า เราได้ปรับแก้มาตรฐานทางสังคมให้กับคนในพื้นที่ และโอบกอดพฤติกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนสิงคโปร์ เหมือนกับที่คนรุ่นก่อนเคยทำ” นายกฯลีกล่าว
“ นี่เป็นการคงแรงสั่นสะเทือนให้กับชุมชนชาวจีน เพื่อให้สิงคโปร์เปิดกว้าง มีพลัง และมีความยืดหยุ่นในอีกหลายปีหน้า”