KTB พัฒนาระบบใบสั่งออนไลน์อย่างครบวงจร
การชำระค่าปรับและค่าทำเนียมอื่นๆโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์และการพัฒนาด้าน e-paymentทางกรุงไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเชื่อมระบบในวันที่ 1 ตุลาคม 2562โดยปัจจุบันมีคนชำระค่าปรับและค่าทำเนียมที่กรุงไทยประมาณ 10% โดยทางธนาคารกรุงไทยคาดหวังว่าหลังจากเปิดระบบอย่างเต็มรูปแบบแล้วตัวเลขจะขยับใน2-3เดือนนี้อยู่ที่ 50%
นายธวัชชัย ชีวานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหัวหน้าคณะทำงานโครงการรับชำระค่าปรับจราจร แถลงข่าวการรับชำระค่าปรับ โดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาด้าน e-Payment (เพิ่มเติม) เพื่อพัฒนาระบบใบสั่งออนไลน์แบบครบวงจร โดยเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งทุกสถานีกับกรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูรายงานและข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นต่อการออกใบสั่ง ด้านประชาชนสามารถชำระค่าปรับผ่าน Banking Agent ของธนาคาร นอกเหนือจากสาขา เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXT และเตรียมขยายการชำระใบสั่งผ่านเว็บไซต์และต่างสถานี เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายธวัชชัย ชีวานนท์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมผลักดันโครงการ National e-Payment ของภาครัฐ โดยเป็นธนาคารแห่งแรกที่ได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้บริการรับชำระค่าปรับจราจรใบสั่งทุกประเภทจากทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2559 และได้ต่อยอดพัฒนาระบบ Police Ticket Management หรือ PTM หรือระบบจัดการใบสั่งออนไลน์ให้ครบวงจร โดยนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งของสถานีตำรวจต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการบันทึกค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสามารถดูรายงานค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ ย้อนหลัง 90 วัน มีระบบออกใบเตือนอัตโนมัติในกรณีใบสั่งยังไม่มีการชำระค่าปรับ เรียกดูข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกใบสั่งต่างๆ ตลอดจนสามารถบันทึกแต้มผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร
สำหรับประชาชนที่ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากสามารถชำระค่าใบสั่งที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXTแล้ว ยังสามารถชำระผ่าน Banking Agent ของธนาคาร ได้แก่ CenPay ตู้บุญเติม และไปรษณีย์ไทย และเตรียมขยายช่องทางการชำระค่าใบสั่งผ่านเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน (e-Ticket) ด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต รวมทั้งชำระใบสั่งต่างสถานีจากเดิมที่ชำระค่าปรับกับสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งเท่านั้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารยังมีส่วนร่วมในการรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัยอีกด้วย.