โพลล์ชี้สิงคโปร์ยังแบนเซ็กส์ชาวเกย์
คนส่วนใหญ่ในสิงคโปร์ยังคงสนับสนุนกฎหมายห้ามความสัมพันธ์ทางเพศของชาวเกย์ จากผลสำรวจออนไลน์ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ท่ามกลางการดีเบตล่าสุดว่า สิงคโปร์ควรตามรอยอินเดียและฉีกกฎหมายเก่าตั้งแต่ยุคอาณานิคมอังกฤษทิ้งไปหรือไม่
การท้าทายกฎหมายแบนเซ็กส์ของชาวเกย์ก่อนหน้านี้ล้มเหลว แต่นักการทูตที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์เรียกร้องประชาคมชาวเกย์ให้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย หลังศาลสูงสุดของอินเดียมีคำตัดสินว่า เซ็กส์ของเพศเดียวกันไม่ใช่อาชญากรรมผิดกฎหมายอีกต่อไป สร้างความดีใจไปทั่วประเทศอินเดีย
55% ของชาวสิงคโปร์ 750 คนในการสำรวจของ Ipsos ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดและที่ปรึกษาระบุว่า พวกเขายังสนับสนุนกฎหมายที่ห้ามความสัมพันธ์ทางเพศของชาวเกย์อยู่ โดยโพลล์ชี้ว่า มีชาวสิงคโปร์ 12% ที่ต่อต้านกฎหมายนี้ ขณะที่อีก 33% ไม่สนับสนุนและไม่คัดค้านกฎหมายนี้
โดย Ipsos จัดทำการสำรวจออนไลน์กับกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 15 – 65 ปีเป็นเวลา 4 วันในช่วงปลายเดือนก.ค.และช่วงต้นเดือนส.ค.
ภายใต้กฎหมายมาตรา 377A ของสิงคโปร์ หากพบว่า ชายคนหนึ่งมีการกระทำลามกอนาจารกับชายอีกคน จะต้องได้รับโทษจำคุกถึง 2 ปี แต่กฎหมายนี้ไม่มีผลบังคับใช้กับเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงด้วยกัน
หลังได้รับเอกราชมานานถึง 6 ทศวรรษ สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่ทันสมัยและร่ำรวย แต่รัฐบาลยังคงระมัดระวังเรื่องการปฏิรูปสังคมโดยเฉพาะในประเด็นอ่อนไหว เนื่องจากเป็นประเทศที่หลอมรวมความแตกต่างด้านชาติพันธ์ุและศาสนาของประชากร 5.6 ล้านคนเข้าด้วยกัน
โฆษกหญิงของ Ipsos ระบุว่า มีการจัดทำผลสำรวจนี้ในวาระครบรอบ 10 ปีของการเดินขบวนพาเหรดประจำปีของชาว LGBT หรือ Pink Dot ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นอีเวนท์ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนหลายพันคน
สัปดาห์ก่อน Tommy Koh นักการทูตและนักกฎหมายอาวุโส เรียกร้องให้ชุมชนชาวเกย์ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อท้าทายกฎหมายนี้
K.Shanmugam รมว.กระทรวงกิจการภายในและกฎหมายระบุว่า ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสังคมสิงคโปร์ แต่ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่ยังคัดค้านการเปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้ โดยเขาเสริมว่า มีคนส่วนน้อยที่เพิ่มจำนวนขึ้น ที่ต้องการให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้
Robert McPhedran ผู้ช่วยผอ.ฝ่ายวิจัยในสิงคโปร์ ระบุว่าผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า บรรทัดฐานของชาวสิงคโปร์ที่มีต่อประเด็น LGBT ค่อยๆเปลี่ยนไป “ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆทั่วโลก การพูดถึงความสัมพันธ์ของเพศเดียวกันได้รับการยอมรับมากขึ้นในกลุ่มชาวสิงคโปร์ ”
นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า สังคมสิงคโปร์ไม่ได้เปิดเสรีให้กับประเด็นเหล่านี้
“ แม้นายกฯลีจะพูดเช่นนั้นก็ตาม แต่ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมก็ยังคงห่างไกลจากที่ควรจะเป็น ” McPhedran ให้ความเห็น