มาเลย์ขอเลื่อนรถไฟความเร็วสูงกับสิงคโปร์
มาเลเซียจะมีการเจรจาขอผัดผ่อนกับทางสิงคโปร์ในโครงการรถไฟความเร็วสูงสิงคโปร์ – กัวลาลัมเปอร์ (HSR) ออกไปก่อน เนื่องจากไม่อยากเสียค่าปรับ นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดแห่งมาเลเซียแถลงเมื่อวันที่ 19 ก.ค.
“ปัญหาคือว่า หากเรายกเลิกข้อตกลงแต่เพียงฝ่ายเดียว เราต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินสูงมาก” ดร.มหาเธร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในสภา
“เราไม่อาจพูดได้ว่า เราจะไม่สร้างโครงการ HSR แต่ในเวลานี้ เราไม่มีเงินทุนเลย เราจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน” นายกฯมหาเธร์ระบุ
ดร.มหาเธร์ กล่าวว่า จะมีการประชุมร่วมกันเมื่อรมว.กิจการเศรษฐกิจ อัซมิน อาลี แห่งมาเลเซียเดินทางไปเยือนสิงคโปร์ในช่วงสิ้นเดือนก.ค.นี้
โดยรมว.อัซมินกล่าวว่า ทุกอย่างในข้อตกลงจำเป็นต้องมีการพิจารณาตรวจสอบใหม่
“ทั้งโครงการต้องมีการทบทวนใหม่” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยเสริมว่า รัฐบาลจะพิจารณาว่าจะมีข้อตกลงเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง
“ลำดับความสำคัญชัดเจนมาก เราต้องการลดหนี้ที่เรากำลังประสบอยู่ บางที หากโครงการสามารถพัฒนาได้ในภายหลัง เราจะสามารถปรึกษาหารือกัน แต่ความสำคัญลำดับแรกของเราตอนนี้คือตัดลดค่าใช้จ่ายและลดหนี้ของรัฐบาล” เขากล่าวนอกรอบจากการอภิปรายในสภา
ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่มาเลเซียเผยว่า หนี้ของประเทศพุ่งทะยานสูงกว่า 1 ล้านล้านริงกิต หรือราว 8.34 ล้านล้านบาท และรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะลดหนี้โดยการเจรจาใหม่ หรือยกเลิกเมกะโปรเจกต์ทั้งหมด
พรรครัฐบาลที่มาจากพรรคฝ่ายค้าน Pakatan Harapan ได้แถลงยุติโครงการก่อสร้างรถไฟฝั่งตะวันออก หรือ East Coast Rail Link (ECRL)
ขณะที่มีการทบทวนโครงการและระงับโครงการรถไฟ LRT3
เมือ่เดือนพ.ค. นายกฯมหาเธร์ระบุว่า คณะรัฐมนตรีเห็นพ้องให้มีการยกเลิกโครงการ HSR แต่เขากลับลำในเดือนมิ.ย. โดยกล่าวว่า จะมีการเลื่อนโครงการออกไปก่อน
“โครงการจะถูกเลื่อนออกไปก่อน เราจำเป็นต้องมีการศึกษากันใหม่ และเพราะเราขาดเงินทุน เราจะเลื่อนโครงการออกไป หรือลดขนาดของโครงการลง” ผู้นำมาเลเซียกล่าวในระหว่างที่ไปเยือนญี่ปุ่น
ทั้งนี้ โครงการ HSR มีการลงนามในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมการเดินทางระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียและสิงคโปร์ด้วยเวลาเพียง 90 นาที แต่จากการประเมินราคาค่าก่อสร้างโครงการอยู่ที่ 110,000 ล้านริงกิต หรือราว 917,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงเกินไป
อดีตนายกฯนาจิบเคยกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของโครงการ HSR อยู่ที่ 72,000 ล้านริงกิต หรือราว 600,480 ล้านบาท แต่รัฐบาลใหม่กล่าวหาว่า ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นที่แอบซ่อนอยู่และดอกเบี้ยซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าราคาตั้งต้นของโครงการ
Khaw Boon Wan รมว.กระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ระบุเมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ว่า ทางสิงคโปร์ใช้งบประมาณกับโครงการนี้ไปแล้วประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8,382 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะเทงบเพิ่มอีก 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในสิ้นปีนี้
“นี่เป็นเงินที่ใช้ไปแล้วจริงๆ เราสามารถแก้ไขมูลค่าการลงทุนบางอย่างได้ แต่จำนวนเงินที่ถูกใช้ไปจริงจะกลายเป็นความสูญเปล่า หากโครงการไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้” เขากล่าว