“โจโควี่”เร่งปรับปรุงความปลอดภัยทางน้ำ
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซียสั่งการให้มีการยกเครื่องมาตรฐานความปลอดภัยการคมนาคมทางน้ำ หลังเกิดเหตุเรือเฟอร์รีล่มที่ทะเลสาบโทบากลายเป็นโศกนาฎกรรมที่เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 รายในทะเลสาบที่ลึกถึง 500 เมตรในช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
“ ผมขอร้องว่าอย่าให้มีอุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีก และผมสั่งให้กระทรวงคมนาคมประเมินมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมดสำหรับการคมนาคมทางน้ำ” ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่พระราชวัง Bogor ในชวาตะวันตก
อุบัติเหตุในทะเลสาบโทบา ทางเหนือของสุมาตรา ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุสำคัญคือ ขาดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการคมนาคมทางน้ำ
ทางการมีความยุ่งยากที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องจากจำนวนผู้โดยสารบนเรือลำที่ประสบเหตุ เพราะเรือไม่มีใบอนุญาตในการเดินเรือ และผู้ประกอบการไม่ยอมแสดงเอกสารการขนส่งสินค้าของเรือ ผู้โดยสารและพนักงาน และยังไม่มีความชัดเจนว่ามีเอกสารเหล่านี้อยู่หรือไม่
เรือลำที่ประสบเหตุชื่อ KM Sinar Bangun สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 43 คน จากจำนวนเสื้อชูชีพที่มี 45 ตัว แต่เชื่อกันว่า จำนวนผู้โดยสารบนเรือเกินจากนี้ไปมากจนอาจถึง 200 คน
ในวันที่ 20 มิ.ย. ทางการระบุว่า พบผู้โดยสาร 22 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 4 ราย แต่ยังได้รับรายงานว่ามีผู้โดยสารสูญหาย 192 ราย และเกรงว่าทั้งหมดนี้อาจติดอยู่กับเรือที่จมลงในทะเลสาบ
บูดิ การ์ยา สุมาดิ รมว.คมนาคมกล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่า เรือจะสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากขนาดนั้น
“ ผมว่า เป็นไปได้ที่จะมีผู้โดยสาร 80 คน แต่ 200 คนไม่น่าจะได้”
M.Syaugi ผอ.สำนักค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติระบุว่า จนถึงตอนนี้ พบร่างของผู้เสียชีวิตในบริเวณโดยรอบที่เกิดอุบัติเหตุประมาณ 3 – 5 ก.ม.
“ เรากำลังพยายามค้นหาผู้โดยสารต่อไป โดยใช้ยานสำรวจใต้น้ำเพิ่มด้วย”
เขากล่าวว่า ทีมนักประดาน้ำค้นหาใต้ทะเลสาบลึก 50 เมตร แต่ต้องเจอกับอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งสภาพอากาศและอุณหภูมิเย็นจัดของน้ำ ทำให้ทีมค้นหาทำงานได้เฉพาะในช่วงกลางวัน
มีการกำหนดเวลาในการค้นหาไว้ 7 วัน แต่อาจขยายเป็น 10 วันได้ หากยังคงไม่พบเหยื่อผู้สูญหาย “ เราต้องการทราบจำนวนผู้โดยสารที่แท้จริง ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้”
Syaugi กล่าวว่า ทะเลสาบโทบาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่รัฐบาลให้ความสำคัญ รัฐบาลจะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย และอาจต้องมีการสร้างเรือลำใหม่ๆ
“ เราควรปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีอยู่ ถ้าเราทำตาม อุบัติเหตุคงไม่เกิดขึ้น”
กฎระเบียบที่มีอยู่กำหนดให้เรือโดยสารต้องมีการทดสอบความปลอดภัยทุกปี มีเอกสารชี้แจงจำนวนผู้โดยสารและมีใบอนุญาตในการเดินเรือ รวมถึงต้องมีจำนวนเสื้อชูชีพที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารบนเรืออีกด้วย
รัฐบาลยังได้จัดการประชุมกับผู้ประกอบการเรือโดยสารในบริเวณทะเลสาบโทบาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัย และจะมีการจัดหาเสื้อชูชีพ 5,000 ตัวไว้สำหรับเรือทั้งหมด
รมว.คมนาคมยังระบุว่า จะใข้งบประมาณจำนวน 75,000 ล้านรูเปียห์ หรือราว 176ล้านบาท ในการปรับปรุงอู่จอดเรือ 5 แห่งในทะเลสาบอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงคมนาคมระบุว่า จะมีการตั้งข้อหากับคนขับเรือและเจ้าของเรือ หรือเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบหากมีหลักฐานพบว่าเป็นความประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติงาน.