“สมคิด”-ปฏิรูปงบประมาณ
“สมคิด” มั่นใจงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในปี 2560 จะมีการคอรัปชั่นน้อยลงไม่ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะอยู่หรือไม่แต่ กลไกลใหม่ของสำนักงบประมาณที่จัดทำงบแบบบูรณาการ 6 ด้าน และ 54 แผนงาน จะสามารถลดอำนาจการลวงลูกของนักการเมืองที่เข้ามาเป็นเจ้ากระทรวงได้
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการกกว่า 200 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มีปลัดของแต่กระทรวงเข้าร่วมหารือที่สำนักงบประมาณ เพื่อวางเป้าหมายให้งบประมาณปี 60 จัดทำแบบบูรณาการ และมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากงบประมาณในปีผ่านมา
“งบประมาณปี60 ไม่ใช่การยำใหญ่ แต่เป็นเรื่องของปฏิรูปวิธีปฏิบัติ จากเดิมที่แต่ละส่วนราชการจะเสนอคำขอการใช้จ่ายเงินมาที่สำนักงบประมาณ เราก็เปลี่ยนวิธีการใหม่นี้ โดยรัฐบาลจะกำหนดกรอบ หรือยุทธศาสตร์เอาไว้ให้เรียบร้อยเพื่อให้ทุกหน่วยงานเสนองบประมาณที่จะใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ของรัฐบาล” นายสมคิด กล่าวว่า
และระบุว่า ที่ผ่านมา รมต. แต่ละกระทรวงจะมีอำนาจสูงมากในการเสนองบประมาณ และกลายเป็นของโครงการ ซึ่งแน่นอนว่า วิธีการนี้มีแต่นักการเมือง และข้าราชการในหน่วยงานเท่านั้นที่รู้เห็นเป็นใจ จึงกลายเป็นที่มาของการจัดสรรผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ ภายในกระทรวงนั้นๆ
“แต่วิธีการใหม่ จะมีกระทรวงอื่นๆ หรือหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาร่วมในการดำเนินโครงการด้วย เช่น เรื่องเอสเอ็มอี ที่มีงบจำนวนมากกระจายอยู่ในแต่ละกระทรวงจนไม่รู้ว่า งบประมาณสำหรับเอสเอ็มอีที่ใช้ไปจริงๆ มีเท่าไหร่”
สำหรับยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพคน 4. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาส ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันทางสังคม 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ทั้งหมด 6 ด้าน ยังถูกแบ่งออกเป็น 54 แผน งานเช่น แผนงานด้านการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต แผนพัฒนาคน และผู้สูงอายุ แผนพัฒนาอุตสาหกรรม แผน พัฒนาเศรษฐกิจ และวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแผน การสร้างความปรองดองและสมาฉันท์ และแผนการแก้ไขปัญหาภาคใต้ เป็นต้น
“การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณนั้น ไม่ขึ้นอยู่กับเรื่องการเบิกจ่ายเงิน แต่จะขึ้นอยู่ตั้งแต่แรกของการเริ่มวางโครงการ” ผู้อำนวยสำนักงบประมาณ กล่าว
และกล่าวว่า การแผนงานที่ดีจะทำให้ปัญหาการคอรัปชั่นลดลง และยังมีประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอีกด้วย
ในอดีตที่ผ่านมา สำนักงบประมาณก็มีกรอบยุทธศาสตร์ในการจัดทำงบประมาณอยู่แล้ว โดยให้แต่ละกระทรวงเสนอแผนการใช้เงินมาให้ตรงกับยุทธศาสตร์ แต่ผู้ใช้จ่ายเงินยังคงเป็นกระทรวง และเจ้าของแผนงาน แต่ในครั้งนี้ หนึ่งยุทธ์ศาสตร์ หรือหนึ่งแผนงาน จะมีหลายกระทรวงหรือหลายหน่วยงานเข้ามาดูแล ทำให้มีการตรวจสอบ และประสานงานระหว่างกระทรวง กรม กองมีมากขึ้น เราจึงหวังว่า อำนาจของนักการเมืองในแต่ละกระทรวงก็ลดลงตามไปด้วย