“ปินส์”กังวลเครื่องบินจีนในพื้นที่พิพาท
ฟิลิปปินส์แสดงท่าทีความกังวลจากการปรากฎตัวของเครื่องบินทิ้งระเบิดของจีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท และกระทรวงต่างประเทศได้แสดงท่าทีทางการทูตที่เหมาะสม โฆษกของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแถลงเมื่อวันที่ 21 พ.ค.
กองทัพอากาศของจีนระบุว่า การที่เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่น H-6K ของจีนได้ลงจอดและบินขึ้นจากเกาะและแนวปะการังในทะเลจีนใต้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรมในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากกับส.ส.พรรคฝ่ายค้านในกรุงมะนิลา โดยสหรัฐฯเองก็ได้ส่งเรือหลายลำเข้ามาในพื้นที่พิพาทด้วย
ฟิลิปปินส์ไม่สามารถตรวจสอบจำนวนที่มีอยู่ของเครื่องบินทิ้งระเบิดของจีนในทะเลจีนใต้ได้อย่างอิสระ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของ Harry Roque โฆษกของประธานาธิบดีดูเตอร์เต
“ แต่ เราได้บันทึกเป็นรายงานของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเราแสดงความเป็นห่วงอย่างจริงจังจากผลกระทบครั้งนี้ ที่อาจส่งผลกับความพยายามของหลายประเทศที่จะคงสันติภาพและความมั่นคงให้ดำรงอยู่ในภูมิภาค” Roque แถลงกับสื่อที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงมะนิลา
ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังจับตาพัฒนาการของประเด็นนี้อย่างเหมาะสม
“ เราจะใช้ท่าทีทางการทูตที่จำเป็นเพื่อปกป้องคำร้องของเรา และยืนยันจะทำเช่นนี้ต่อไปในอนาคต” กระทรวงระบุในแถลงการณ์
“ เราขอย้ำถึงข้อผูกพันของเราที่จะปกป้องพื้นที่ทุกตารางนิ้วของดินแดนเรา และพื้นที่ซึ่งเรามีอธิปไตยเหนือดินแดนนั้น”
อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์หยุดประณามการกระทำของจีน ซึ่งทางสหรัฐฯระบุว่า อาจเป็นการเพิ่มความตึงเครียด และทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
จีนอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางทะเลที่มีมูลค่าประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 97.05 ล้านล้านบาท จากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในทะเลในทุกปี ขณะที่บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนามต่างอ้างสิทธิในการครอบครองที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมานานด้วยเช่นกัน
โดยจีนได้สร้างเกาะเทียมขึ้นมาถึง 7 เกาะในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ และเปลี่ยนเกาะเหล่านี้ให้กลายเป็นฐานทัพที่เต็มไปด้วยเครื่องบินรบ เรดาร์ และขีปนาวุธ
ทางปักกิ่งกล่าวว่า สิ่งอำนวยความสะดวกของกองทัพในหมู่เกาะเป็นการป้องกันด้านความมั่นคงทั้งสิ้น ซึ่งไม่อาจทำได้ในแผ่นดินของจีนเอง
โฆษก Roque กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ได้ให้ความมั่นใจกับสหรัฐฯว่า จะไม่ละทิ้งการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงที่มีมายาวนานถึง 70 ปี หลังจากในสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนได้พบกับผู้บัญชาการในมหาสมุทรแปซิปิกของสหรัฐฯที่ฮาวาย
ส.ส.ฟิลิปปินส์กล่าววิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีดูเตอร์เตที่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับจีน จากการที่ประเทศพยายามจะเอาใจจีนเพื่อคงความสัมพันธ์กับจีนให้อยู่ในระดับดี ถึงแม้ในปี 2559 จะมีคำพิพากษาตัดสินจากศาลโลกในกรุงเฮ้กให้ฟิลิปปินส์ชนะในกรณีพื้นที่พิพาทนี้ก็ตาม
โดยผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า เขาจะไม่เสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับจีน และย้ำถึงการเปิดกว้างเพื่อให้มีการสำรวจร่วมกันและพัฒนาพื้นที่ทางทะเลในบริเวณนี้ ที่เชื่อว่าอุดมไปด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ.