สิงคโปร์สอบอูเบอร์ควบรวมแกร็บ
องค์กรเฝ้าระวังการแข่งขันในสิงคโปร์ระบุว่า มีเหตุผลเพียงพอที่จะสงสัยได้ว่ามีการละเมิดนโยบายการแข่งขันทางการค้า จากการที่บริษัทอูเบอร์ตกลงที่จะขายกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันอย่างแกร็บ
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าแห่งสิงคโปร์ (CCS) เริ่มต้นสอบสวนเกี่ยวกับข้อตกลงและเสนอให้มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งกำหนดให้อูเบอร์และแกร็บยังคงการตั้งราคาไว้เหมือนเดิมอย่างเป็นอิสระก่อนการทำธุรกรรม อ้างอิงจากที่ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยข้อเสนอยังกำหนดให้อูเบอร์และแกร็บไม่กระทำการใดๆที่อาจก่อให้เกิดการผูกขาดในธุรกิจนี้ในสิงคโปร์ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้อาจส่งผล กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความพยายามของบริษัทสหรัฐฯ ที่จะทำกำไรโดยการหาทางออกจากตลาดที่ขาดทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการได้มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวกับธุรกิจในประเทศสิงคโปร์
“ เพื่อเป็นการหาทางออกจากความกังวลของผู้บริโภค เราให้คำมั่นโดยสมัครใจเพื่อคงโครงสร้างค่าโดยสารที่เป็นธรรมและจะไม่ปรับขึ้นฐานราคาค่าโดยสาร นี่เป็นคำสัญญาที่เราจะเตรียมพร้อมชี้แจงกับทาง CGS และสาธารณะ ” ลิมเคลเจย์ ซีอีโอของแกร็บสิงคโปร์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อรอยเตอร์
ทั้งนี้ อูเบอร์ยังไม่ได้ออกความเห็นในประเด็นนี้ในทันที อูเบอร์และแกร็บประกาศข้อตกลงการควบรวมกิจการเมื่อวันที่ 26 มี.ค. นับเป็นการถอนตัวออกจากตลาดในเอเชียเป็นครั้งที่ 2 ของอูเบอร์ ภายใต้ข้อตกลงนี้ อูเบอร์จะถือหุ้นจำนวน 27.5% ในบริษัทแกร็บ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 188,280 ล้านบาท โดย Dara Khosrowshahi ซีอีโอของอูเบอร์จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของบริษัทในสิงคโปร์ด้วย
ทาง CGS ยังกำหนดให้ทั้งแกร็บและอูเบอร์ไม่ได้รับทราบข้อมูลลับของกันและกัน ทั้งการตั้งราคา ผู้บริโภค และผู้ขับขี่
โดยทั้งสองบริษัทจะมีโอกาสที่จะเสนอรายงานต่อ CGS ในระหว่างที่มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราว
สิงคโปร์มีข้อกำหนดการแจ้งเตือนการควบรวมกิจการโดยสม้ครใจ และทาง CGS ยังไม่ได้รับการแจ้งจากอูเบอร์และแกร็บในวันที่ 30 มี.ค. ถึงแม้ทางบริษัททั้งสองได้ชี้ให้เห็นถึงเจตนาที่จะแจ้งการควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการแก่ทาง CGS ก็ตาม
“ เราแจ้งข้อมูลกับทาง CGS ว่า เรากำลังจะมีการแจ้งเตือนไม่เกินวันที่ 16 เม.ย.เพื่อที่จะมีการร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องและมีข้อผูกพันกับทาง CGS ” ซีอีโอของแกร็บกล่าว
ข้อตกลงนี้เป็นการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีจำนวนประชากรมากถึง 640 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจะทำให้ทางอูเบอร์มีอาวุธในมือมากขึ้นที่จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดอื่น เช่น อินเดีย ซึ่งบริษัทเตรียมการจะเสนอขายหุ้น IPO ในปีหน้า
ในปีที่แล้ว อูเบอร์ขาดทุนสูงถึง 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 141,210 ล้านบาท และกำลังประสบกับสภาพการแข่งขันที่ดุเดือดในสหรัฐฯ และทั่วเอเชีย รวมทั้งการกำกับดูแลที่เข้มงวดในยุโรป โดยบริษัทลงทุนไปถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 21,966 ล้านบาท ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.