ทรัมป์ขึ้นภาษีโต้กลับจีนอีก 5%
วอชิงตัน/ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีเพิ่มอีก 5% เป็นภาษีรอบล่าสุดจากมูลค่าที่ตั้งเป้าไว้ทั้งหมด 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีนที่ยกระดับขึ้น
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ซึ่งประกาศบนทวิตเตอร์ มีขึ้นในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากจีนขึ้นภาษีโต้ตอบสหรัฐฯมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ทรัมป์เรียกร้องให้บริษัทสหรัฐฯย้ายกิจการออกจากจีน
สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทำให้ตลาดกลัวว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะถดถอย ดัชนี Nasdaq Composit ลดลง 3% และ S&P 500 ดิ่งลง 2.6%
ทรัมป์มีการประกาศการขึ้นภาษีรอบล่าสุดตอบโต้จีนหลังจากปิดตลาดในวันที่ 22 ส.ค. ทำให้มีการคาดการณ์ว่าความเสียหายจะส่งผลในสัปดาห์นี้
“ น่าเศร้าที่รัฐบาลที่ผ่านมายอมให้จีนได้เปรียบในการค้าที่ยุติธรรมและสมดุล ซึ่งทำให้เป็นภาระจำนวนมากกับผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน” ทรัมป์ระบุบนทวิตเตอร์ “ ในฐานะประธานาธิบดี ผมไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯจะขึ้นภาษีจากที่เป็นอยู่มูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอัตรา 30% จากปัจจุบันคือ 25% โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ประกาศแผนภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนอื่นๆ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอัตรา 15% จากเดิม 10% โดยสหรัฐฯจะเริ่มขึ้นภาษีกับสินค้าบางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. แต่ภาษีกับสินค้าอีกประมาณครึ่งหนึ่งจะเลื่อนไปจัดเก็บในวันที่ 15 ธ.ค.
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ยืนยันถึงกำหนดวันที่มีผลบังคับใช้ แต่ระบุว่า จะมีการรับฟังความเห็นประชาชนก่อนจัดเก็บภาษี 30% ในวันที่ 1 ต.ค.กลุ่มธุรกิจในสหรัฐฯมีท่าทีไม่พอใจกับข่าวขึ้นภาษีรอบใหม่นี้
“ เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับธุรกิจที่จะวางแผนสำหรับอนาคตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เห็นชัดว่าวิธีการของรัฐบาลไม่ได้ผล และคำตอบไม่ใช่การเพิ่มภาษีให้กับธุรกิจและผู้บริโภคสหรัฐฯ แล้วมันจะจบลงตรงไหน? ” David French รองประธานอาวุโสของสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติระบุ
ทรัมป์มีกำหนดจะพบกับกลุ่มประเทศ G7 ในฝรั่งเศส โดยคาดการณ์ว่าประเด็นความตึงเครียดทางการค้าจะเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญที่สุด
“ สงครามการค้าของท่านประธานาธิบดีเสี่ยงที่จะผลักเศรษฐกิจตกเหว” Mark Zandi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Moody’s กล่าว “ท่านประธานาธิบดีหวังว่าเฟดจะช่วยเขาออกมาจากการติกหล่ม แต่หากยังมุ่งเข้าโหมดสงคราม เฟดก็ทำหน้าที่ได้ไม่มากนัก”
แม้ทรัมป์จะให้เงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาษีของจีน แต่มีความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆในบรรดาเกษตรกรอเมริกัน ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของทรัมป์ในการลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยที่ 2
“ ความเห็นจากเกษตรกรที่ไม่พอใจมีมากขึ้น ตัวเลขคนล้มละลายและทำผิดกฎหมายมีมากขึ้น และราคาพืชผลตกต่ำลง มีความหงุดหงิดสิ้นหวังเพราะกระบวนการเจรจาทำข้อตกลงไม่ก้าวหน้าเลย ” กลุ่ม Farmers for Free Trade ซึ่งเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดระบุในแถลงการณ์.