ทรัมป์ร่วมประชุม G7
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เดินทางถึงฝรั่งเศสเพื่อเข้าร่วมประชุมประจำปีของกลุ่มประเทศ G7 หนึ่งวันหลังจากเขาเรียกประธานเฟดว่าเป็นศัตรูของสหรัฐฯ และกระตุ้นให้บริษัทอเมริกันยุติการทำธุรกิจกับจีน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับจีน
การประชุมมีขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัว และความตึงเครียดของสหรัฐฯ กับพันธมิตรเรื่องการค้า , อิหร่าน และรัสเซีย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ทรัมป์ระบุว่า เขาจะขึ้นภาษีเพิ่มเติมกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 30% จากเดิม 25% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นอกจากนี้ ภาษีเพิ่มเติมมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จัดเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีน จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 ก.ย.นี้
นอกจากสงครามการค้ากับจีนที่ตึงเครียด ทรัมป์ยังมีปัญหากับสหภาพยุโรปด้วย โดยทำเนียบขาวมีกำหนดจะตัดสินใจในเดือนพ.ย.ว่าจะขึ้นภาษีกับรถยนต์ที่นำเข้ามาจากยุโรปหรือไม่
ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปี ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีกับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากอียูและญี่ปุ่น แต่เลื่อนกำหนดในเดือนพ.ค.ออกไปอีก 180 วัน โดยทรัมป์ลงนามในข้อตกลงกับอียูช่วงต้นเดือนส.ค.นี้เพื่อหนุนการส่งออกเนื้อวัวของสหรัฐฯ
แต่เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ทรัมป์ขู่อีกครั้งว่าจะมีการขึ้นภาษีกับอุตสาหกรรมรถยนต์ของอียู
“ การทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรปนั้นยากมาก พวกเขามีการต่อรองสูง เรามีทุกอย่างในประเทศนี้ สิ่งที่เราต้องทำคือเก็บภาษีรถยนต์ของพวกเขา และอียูให้เราเพราะเราส่งเงินหลายล้านซื้อรถเมอร์ซีเดส ซื้อ BMW ”
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความขัดแย้งทางการค้ากับยุโรปอาจสร้างความเสียหายได้มากกว่าสงครามการค้าที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างสหรัฐฯกับจีน
การประชุม G7 นัดแรกของทรัมป์ในวันที่ 24 ส.ค.เป็นการรับประทานอาหารกลางวันส่วนตัวกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส โดยมาครง ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการประชุมระบุว่า มีการพูดคุยเรื่องวิกฤติทั่วโลก ทั้งลิเบีย อิหร่าน และรัสเซีย รวมทั้งนโยบายการค้าและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
ทรัมป์ระบุว่า การประชุมกับมาครงจะเป็นไปด้วยดี
“ เอ็มมานูเอลกับผม เรามีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง เราเป็นเพื่อนกันมานาน เราไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก แต่เราเข้ากันได้ดีมาก”
เมื่อถูกถามว่าจะขึ้นภาษีกับไวน์จากฝรั่งเศสเพื่อตอบโต้ภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสตามคำขู่ของเขาก่อนหน้านี้หรือไม่ ทรัมป์ไม่รับปาก แต่ตอบว่าเขารักไวน์ฝรั่งเศส
โดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรป ระบุเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ว่า อียูจะ “โต้ตอบแบบเดียวกัน” หากสหรัฐฯขึ้นภาษีกับฝรั่งเศสเพราะแผนภาษีดิจิทัล
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ G7 เป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ประกอบด้วยสหรัฐฯ ,เยอรมนี ,ฝรั่งเศส , ญี่ปุ่น , แคนาดา , อิตาลี และสหราชอาณาจักร
ในการประชุม คาดการณ์ว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ทั้งอิหร่าน และความตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถาน รวมทั้งเหตุไฟไหม้ป่าในป่าอเมซอน
การประชุม G7 อย่างเป็นทางการเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 ส.ค. แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากคาดการณ์ว่าการประชุมจะจบลงโดยไม่มีแถลงการณ์ร่วม เพราะความขัดแย้งทางการค้า.