ลาวขายไฟฟ้าให้เมียนมา
ลาวและเมียนมาทำข้อตกลงร่วมกันด้านไฟฟ้าเพื่อพัฒนาความจำเป็นในการพัฒนาของลาว โดยสื่อท้องถิ่นอย่างเวียงจันทน์ไทม์ยกคำพูดของเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของลาวมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายดาววง โพนเขียว รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่กล่าวกับสื่อเวียงจันทน์ไทม์ว่า ทั้งสองประเทศจะลงนามในบันทึกความเข้าใจ ( MoU) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการอนุญาตให้ทางการเมียนมาเริ่มต้นทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้
“เมียนมาต้องการซื้อไฟฟ้าประมาณ 100 – 200 เมกะวัตต์ แต่นั่นขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของผลการศึกษาความเป็นไปได้” นายดาววงกล่าว
“ในตอนนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อไรเราถึงจะเริ่มขายไฟฟ้าภายใต้โปรแกรมนี้ และราคาที่เราจะขาย ”
โดยนายดาววงกล่าวว่า ลาวจะจ่ายกระแสไฟฟ้าไปเมียนมาผ่านเครือข่ายพลังงานทางเหนือ “ หากทุกอย่างก้าวหน้าไปอย่างที่วางแผนกันมา เราคาดการณ์ว่าจะเริ่มขายกระแสไฟฟ้าให้เมียนมาภายในสิ่้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า”
ปัจจุบัน ลาวขายไฟฟ้าเพียง 4 – 5 เมกะวัตต์ไปที่เมียนมา ซึ่งเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อย และทั้งสองประเทศตั้งเป้าว่าจะเพิ่มชึ้นในอนาคตอันใกล้
อ้างอิงจากรายงานของสื่อเมียนมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค. เมียนมาจัดตั้งแผนผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งมีการกำหนดกรอบว่า ไฟฟ้าจะมีใช้อย่างพอเพียงทั่วประเทศในปี 2073
ทั้งนี้ ลาวมีศักยภาพสูงมากในด้านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อีกมาก โดยปัจจุบัน ประเทศลาวมีโรงไฟฟ้า 46 แห่ง ซึ่งสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ถึง 6,757 เมกะวัตต์ ประมาณ 35,608 GWh ของไฟฟ้าต่อปี อ้างอิงจากรายงานของเวียงจันทน์ไทม์เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ คาดการณ์ว่าลาวจะสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 และจะเพิ่มปริมาณเป็น 20,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสูงกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศ
ปัจจุบัน พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ในลาวส่วนใหญ่ส่งขายให้ประเทศไทย
ในเดือนก.ย.ปี 2560 ลาวลงนามในข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าไตรภาคีกับประเทศไทยและมาเลเซียเพื่อขายไฟฟ้าให้มาเลเซีย 100 เมกะวัตต์โดยใช้โครงข่ายการส่งพลังงานไฟฟ้าของไทย โดยการส่งกระแสไฟฟ้าจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ส.ค.ปี 2561.