บี้ประกันฯจ่าย 1.5 ล.คดีมาเลย์ชน 5 ศพ
คปภ.จี้จนบริษัทประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทน 1.5 ล้านบาทแก่ทายาทผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุถูกรถเก๋งนักเที่ยวมาเลย์ชนแล้ว
กรณีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เลขทะเบียน WHY 6995 มาเลเซีย เสียหลักและพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตัดหญ้าของหมวดทางหลวงกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ได้แก่ นายวิรัตน์ เส็มไข , นายสมพร สวัสดิรักษา, นายวิชยา ทองมา, นายธีรวุธ มงคล, นายเอี่ยม ชายแก้ว และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งรายคือ นายบำเรอ เกษมุล บริเวณบนถนนสายเอเชีย หน้าหน่วยกู้ภัยเอเชีย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบรถยนต์คันดังกล่าวมีประกันภัย พ.ร.บ. กับ บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย กรมธรรม์เลขที่ HY1-19-MMA1-124083 เริ่มคุ้มครองวันที่ 11 ส.ค.62 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 19 ส.ค.62 ซึ่งเป็นการทำประกันภัยก่อนนำรถเข้ามาท่องเที่ยวในฝั่งไทยโดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 9 วัน เบี้ยประกันภัยเพียง 35 บาท
สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) ได้ประสานงานกับ บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย จนมีการอนุมัติค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้นัดมอบค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ซึ่งนายวรการ อารีย์รัชชกุล ผจก.บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย สาขาหาดใหญ่ เป็นผู้มอบ รวมค่าสินไหมทดแทน 1,500,000 บาท โดยมีเลขาธิการ คปภ. เป็นประธานสักขีพยาน และมีคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) สำหรับผู้บาดเจ็บอยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย ได้รับรองค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลวงเงิน 80,000 บาท ตามความคุ้มครองประกันภัย พ.ร.บ. เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายชอบ เสมไข บิดานายวิรัตน์ เส็มไข กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณ สำนักงาน คปภ. จ.สงขลา และ สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) ที่ได้ลงพื้นที่ประสานงานให้ความช่วยเหลือจนทำให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว ส่วนนางจมชื่น ชายแก้ว ภรรยาของนายเวียง ชายแก้ว ได้ชื่นชมและขอขอบคุณ ที่สำนักงาน คปภ. ช่วยดูแลให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับขอฝากบอกเจ้าของรถทุกคนขอให้จัดทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. เนื่องจากหากเกิดเหตุแล้ว ค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับสามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้ โดยเฉพาะตนเองมีบุตร 3 คน การสูญเสียสามีที่เป็นหัวหน้าครอบครัวซึ่งเป็นกำลังหลักในการหารายได้ทำให้ตนเองเดือดร้อน ซึ่งนับว่ายังดีที่รถคันที่ชนได้ทำประกันภัยไว้
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวสรุป.
