การค้าต่างประเทศของเมียนมาโตขึ้น
การค้าระหว่างเมียนมาและหลายประเทศคู่ค้าเติบโตขึ้นมีมูลค่าสูงถึง 16,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 564,629 ล้านล้านบาท ในช่วงเวลาตั้งแต่ 1 เม.ย. – 13 ต.ค.ในปีงบประมาณปัจจุบัน อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาล เพิ่มขึ้นถึง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของการค้ากับต่างประเทศสวนทางกับการค้าที่ชายแดน โดยในช่วงเวลาเดียวกัน มูลค่าการค้าที่ชายแดนลดลง 151 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 126,958 ล้านบาท
โดยการค้าของเมียนมาผ่านช่องทางทางทะเลเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 80% ของมูลค่าการค้าโดยรวมกับต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้ว การค้าทางทะเลของเมียนมาจะผ่านท่าเรือ 6 แห่งในย่างกุ้ง ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของการท่าเรือเมียนมา และ ติละวา ซึ่งเป็นท่าเรืออุตสาหกรรมและท่าเรือหลักสู่เอเชียของเมียนมา
นอกจากนี้ เมียนมายังมีการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านผ่านด่านชายแดนทั้งหมด 16 ด่าน โดยมีการค้ากับทั้งจีน ไทย บังคลาเทศและอินเดีย เหตุผลสำคัญที่ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลงคือกิจกรรมการค้าที่ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัดที่ด่านมูเซะ ซึ่งเป็นด่านการค้าชายแดนกับมณฑลยูนนานของจีน ที่มีมูลค่าลดลงราว 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 80% ของการค้าชายแดนที่ลดลงทั้งหมด อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้ เมียนมามีการขยายปริมาณการส่งออกสินค้าในประเทศ ทั้งข้าว น้ำตาล ชา อาหารทะเล แร่ธาตุและผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ และเมียนมาเองก็ซื้อสินค้าบริโภคสำเร็จรูป และสินค้าที่ใช้ในการลงทุน เช่น เครื่องจักร จากจีนผ่านด่านชายแดน การค้าซบเซาลงจากความขัดแย้งด้านกองทัพที่กระทบภูมิภาคโกก้างในรัฐฉาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อต้นปีนี้ ส่งผลต่อการขยายตัวทางการค้าผ่านด่านมูเซะเป็นการชั่วคราว
ขณะเดียวกัน การค้าชายแดนที่ด่านทามุและรีดระหว่างเมียนมาและอินเดียก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลงถึง 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ 34.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน
โดยมูลค่าการค้ากับจีนและอินเดียที่ลดลงบดบังตัวเลขการค้ากับไทยที่เติบโตขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ เมียนมาทำการค้ากับไทยส่วนใหญ่ผ่านด่านเมียวดี และเกาะสอง โดยการค้าที่ด่านเมียวดีคงที่อยู่ที่ 466 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การค้าที่ด่านเกาะสองเพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนกับไทยเติบโตขึ้นเป็น 694 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน เมียนมาขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขนำเข้าสูงกว่าส่งออก โดยมูลค่าการนำเข้าของเมียนมาอยู่ที่ 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 เมียนมาขาดดุลการค้าประมาณ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของเมียนมาคือ สินค้าเกษตรกรรมและผลิตผลจากป่าไม้ ปศุสัตว์ แร่ธาตุ และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่เมียนมานำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ วัตถุดิบ เช่น เหล็ก พลาสติก ปุ๋ยและน้ำมัน รวมถึงรถยนต์และพาหนะอื่นๆ
การขาดดุลการค้าของเมียนมายังเกิดจากปัจจัยสำคัญคือ ค่าเงินจ๊าดซึ่งอ่อนค่าลงประมาณ 7% ในปีที่ผ่านมาเป็น 1,361 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 ต.ค.