รถติดหนักในอินโดฯ ทำปธน.ต้องเดิน
ภาพการจราจรที่แออัดคับคั่งในอินโดนีเซียถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 5 ต.ค. หลังจากประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ต้องตัดสินใจลงจากรถยนต์และเดินบนถนนเป็นระยะทางประมาณ 2 ก.ม.ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดเพื่อไปเข้าร่วมในพิธีสวนสนามของทางกองทัพให้ทัน
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบบริหารราชการและโครงสร้างพื้นฐานที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้การจราจรที่ติดขัดส่งผลกระทบด้านลบกับเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก
ฝันร้ายจากการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักยิ่งถูกใส่สีให้โลกเห็นชัดเจนขึ้นมาอีกเมื่อวันที่ 5 ต.ค.หลังจากประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรที่ติดขัดนิ่งอยู่นาน จึงตัดสินใจลงจากรถเพื่อเดินบนถนนเป็นระยะทางมากกว่า 2 ก.ม. เพื่อเข้าร่วมในพิธีเฉลิมฉลองการครบรอบ 72 ปีของการก่อตั้งกองทัพในอินโดนีเซีย
ประธานาธิบดีวิโดโดและรัฐมนตรีในรัฐบาลติดอยู่ในการจราจรที่ติดหนึบอยู่ในระหว่างการเดินทางไปที่การเดินสวนสนามของกองทัพในเมืองจีเลอกง ซึ่งเป็นเมืองท่าที่อยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาประมาณ 2 ชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถยนต์ อ้างอิงจากรายงานของทำเนียบประธานาธิบดี
หลังจากรออยู่ในรถนานถึง 30 นาที “ ท่านประธานาธิบดีเลยตัดสินใจออกมาจากรถ แล้วท่านก็เดินเลย ” อิลลิ ดาสิลิ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวประธานาธิบดีกล่าว
ติโต การ์นาเวียน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งติดอยู่ในการจราจรที่นิ่งสนิทครั้งนี้ ได้ร่วมเดินกับวิโดโดด้วย
ภาพจากวีดีโอแสดงให้เห็นถึงภาพผู้นำอินโดนีเซียเดินอยู่ท่ามกลางการห้อมล้อมระแวดระวังของกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขณะที่ประชาชนสองข้างทางต่างตะโกนและส่งเสียงเรียกชื่อเขา
โดยภาพการเดินทางที่ทุลักทุเลของวิโดโดไม่รอดไปจากการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ใช้งานในโซเชียลมีเดียไปได้ หลายคนพากันตั้งคำถามว่า ทำไมท่านผู้นำของประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องมาเดินไปตามถนนแบบนี้
“ ทำไมท่านประธานาธิบดีต้องเดินถึง 2 ก.ม.เพื่อไปร่วมพิธีสวนสนามของกองทัพ ทำไมพวกเจ้าหน้าที่ไม่เปิดทางอำนวยความสะดวกให้ท่านผ่านไปเป็นพิเศษ หรือให้ท่านขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป ?” ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งแสดงความกังขา