ไฟไหม้ป่า 282 จุดทั่วอินโดฯ
ดาวเทียมอินโดนีเซียตรวจสอบได้เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า มีไฟไหม้ป่าถึง 282 จุดทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าเป็นจำนวนมากที่สุดในปีนี้ เนื่องจากอากาศร้อนที่แห้งแล้งยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
โดยพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กะลิมันตันตะวันตก ซึ่งมีจุดของไฟไหม้มากเกินครึ่งของจำนวนที่เกิดขึ้นทั้งหมด อ้างอิงจากถ้อยแถลงของดร.สุโตโป ปุรโวโฆษกสำนักจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ที่เผยแพร่ตัวเลขเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ก.ค.
พื้นที่ 9 เขตในจังหวัดนี้คือ กุบุ รายา,เกตาปัง, เซกาเดา, เมลาวี และเบงกายัง ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง รวมถึงความช่วยเหลือจากทางกองทัพในการช่วยดับไฟ
ดร.สุโตโปยังแสดงท่าทีความกังวลว่า ถึงแม้ 150 จุดจะถูกตรวจพบทั่วกะลิมันตันตะวันตก แต่จำนวนไฟไหม้จริงอาจสูงกว่านี้
“ ไฟที่เผาผลาญพื้นที่ในกะลิมันตันตะวันตกยังคงมีอยู่ แม้พวกเราจะพยายามหยุดแล้วก็ตาม ” เขาเสริม
โดยเขาเตือนว่า จำนวนจุดที่เกิดไฟไหม้อาจสูงกว่าที่ดาวเทียมตรวจจับได้ เนื่องจากดาวเทียมอาจไม่ได้ผ่านพื้นที่ป่าทั้งหมดที่ไฟอาจลุกติดอยู่
พื้นที่อื่นในอินโดนีเซียก็ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ป่าเช่นกัน แต่ยังไม่เลวร้ายเท่ากับในปี 2558
ที่ซึ่งไฟไหม้ป่าและป่าพรุในกะลิมันตันและสุมาตราได้ก่อให้เกิดหมอกควันหนาทึบ ซึ่งปกคลุมไปทั่วบริเวณและระดับมลพิษทางอากาศแตะระดับสูงสุดเป็นเวลาหลายเดือน
นอกจากในกะลิมันตันตะวันตกแล้ว ยังมีจุดที่เกิดไฟไหม้ในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ เช่น สุมาตรานับใต้ 23 จุด สุลาเวสีใต้ 18 จุด เรียว 18 จุด นุสา เทงการาตะวันออก 12 จุด
“ บริเวณที่เกิดไฟป่าเผาผลาญเป็นจุดที่ยากแก่การเข้าถึงและอยู่ห่างไกล จึงอธิบายได้ว่าทำไมจึงยากที่จะดับไฟ ”
โดยเมื่อวันที่ 5 ส.ค. มีการใช้เฮลิคอปเตอร์มากถึง 18 ลำ ในการปฏิบัติการดับไฟในจังหวัดเรียว จัมบิ สุมาตราใต้ กะลิมันตันทั้งทางตะวันตก และ 5 จังหวัดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในปัจจุบัน
สิติ นุรบายา บาการ์ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและป่าไม้กล่าวว่า วันที่ 7 ม.ค.ว่า เฮลิคอปเตอร์จะทำการขึ้นบินดับไฟป่าเหนือพื้นที่ที่ถนนเข้าไม่ถึง
“ หากพื้นที่ยากที่จะเข้าถึง หรือถูกปิดมานาน เราก็ใช้วิธีการทิ้งระเบิดน้ำลงไปดับไฟ” เธอกล่าว
คาดการณ์ว่าฤดูร้อนที่แห้งแล้งในอินโดนีเซียจะจบลงในเดือนก.ย. ซึ่งถือว่าเกิดขึ้นเร็วที่สุด.
