สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 13 ต.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.พิษณุโลก (98 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.สุรินทร์ (60 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ราชบุรี (56 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (92 มม.) ภาคตะวันออก : จ.สระแก้ว (62 มม.) ภาคใต้ : ชุมพร (115 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทย ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 14–16 ต.ค. 68.ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 85% ของความจุเก็บกัก (68,875 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 77% (44,753 ล้าน ลบ.ม.)
3. สถานการณ์น้ำ :
• สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
– 4 เขื่อนหลัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ ปัจจุบัน
– เขื่อนภูมิพล ปริมาตรน้ำ 12,366 ล้าน ลบ.ม. (92%) น้ำไหลเข้า 42.01 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
– เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาตรน้ำ 9,200 ล้าน ลบ.ม. (97%) น้ำไหลเข้า 33.56 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 30.17 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
– เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาตรน้ำ 944 ล้าน ลบ.ม. (101%) น้ำไหลเข้า 11.94 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 12.96 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
– เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาตรน้ำ 788 ล้าน ลบ.ม. (82%) น้ำไหลเข้า 29.69 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 8.66 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
– สถานี C.2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ วันที่ 13 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,639 ลบ.ม. ต่อวินาที ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.48 ม.
– เขื่อนเจ้าพระยา วันที่ 13 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.
ระบายน้ำในอัตรา 2,300 ลบ.ม. ต่อวินาทีมีระดับน้ำเหนือเขื่อน +16.070 ม.รทก. และระดับน้ำท้ายเขื่อน +15.470 ม.รทก.
• สถานการณ์แม่น้ำมูล วันที่ 13 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.
– สถานี M.7 อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี ปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,124 ลบ.ม. ต่อวินาที สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.45 ม.
4. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 12 ต.ค. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 17 จังหวัด 78 อำเภอ ได้แก่ จ.พิษณุโลก (อ.วังทอง และบางระกำ) จ.เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ และหนองไผ่) จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสำโรง และสรรคโลก) จ.พิจิตร (อ.เมืองฯ สามง่าม โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง บางมูลนาก ทับคล้อ ดงเจริญ สากเหล็ก วังทรายพูน ตะพานหิน และวชิรบารมี) จ.นครสวรรค์ (อ.เมืองฯ ชุมแสง ไพศาลี พยุหะคีรี โกรกพระ และท่าตะโก) จ.อุทัยธานี (อ.เมืองฯ) จ.ชัยภูมิ (อ.บ้านเขว้า) จ.อุดรธานี (อ.เมืองฯ พิบูลยรักษ์ สร้างคอม หนองหาน บ้านดุง เพ็ญ กุดจับ หนองวัวซอ นายูง และกุมภวาปี) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ ตระการพืชผล และดอนมดแดง) จ.ชัยนาท (อ.สรรพยา) จ.สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี และพรหมบุรี) จ.อ่างทอง (อ.เมืองฯ ป่าโมก ไชโย และวิเศษชัยชาญ) จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า สองพี่น้อง ดอนเจดีย์ เดิมบางนางบวช อู่ทอง หนองหญ้าไซ สามชุก และด่านช้าง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา มหาราช บางปะหัน บ้านแพรก ท่าเรือ นครหลวง และบางซ้าย) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก) จ.นครปฐม (อ.บางเลน สามพราน และนครชัยศรี) และ จ.ฉะเชิงเทรา (อ.บางน้ำเปรี้ยว)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 ต.ค. 68