ฟิลิปปินส์เล็งดึงทุนต่างชาติเข้าธุรกิจโทรคมนาคม
การจำกัดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทต่างชาติในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของฟิลิปปินส์ควรถูกยกเลิกเพื่อเป็นการดึงดุดทุนต่างชาติและปรับปรุงการให้บริการ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของรัฐมนตรีอาวุโสเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน บริษัทต่างชาติสามารถถือหุ้นในธุรกิจของฟิลิปปินส์ได้สูงสุด 40% รวมถึงบริษัทโทรคมนาคม
ซึ่งควรจะมีสัดส่วนสูงกว่านี้ เออร์เนสโต เปอร์เนีย รัฐมนตรีวางแผนเศรษฐกิจกล่าว
“ หากเราต้องการดึงเงินทุนโดยตรงจากต่างชาติ พวกเขาตวรได้ถือหุ้นมากกว่านี้ในการลงทุน ผมว่า 40% ดูจะน้อยเกินไป แต่ถ้าเพิ่มเป็น 70% ดูจะดึงดูดใจมากขึ้น ” เขาเสริม
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของฟิลิปปินส์มีเพียง 2 บริษัทที่ให้บริการอยู่ คือ PLDT และ Globe Telecom นักวิจารณ์แย้งว่าการมีผู้ลงทุนเพียง 2 บริษัทอาจจะทำให้การบริการไม่มีประสิทธิภาพและคิดค่าบริการแพงเกินไป โดยมีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่า ฟิลิปปินส์มีสปีดความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ช้าที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
โดยนายเปอร์เนียกล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้ต้องมีการผ่านร่างกฎหมายใหม่จากสภาคองเกรส ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่าส.ส.ให้ความสนใจมากเพียงใดในอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ
อย่างไรก็ตาม กฎหมายรัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์กำหนดเพดานสูงสุดในการถือครองหุ้นของบริษัทต่างชาติไว้ที่ 40% และนักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า การปรับเปลี่ยนตัวเลขการถือครองหุ้นให้สูงขึ้นสำหรับบริษัทต่างชาติอาจทำให้ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายรัฐธรรมนูญ
บริษัท PLDT ดำเนินธุรกิจโดย First Pacific ซึ่งเป็นบริษัทที่มีสำนักงานในฮ่องกง มีสัดส่วนการถือหุ้น 25% ของบริษัทฟิลิปปินส์
โดยบริษัทคู่แข่งคือ Globe Telecom ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท Singtel และกลุ่มบริษัท Ayala ของฟิลิปปินส์ มีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นประมาณ 20%
ทั้งนั้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อปีที่แล้ว เคยเน้นย้ำในการเรียกร้องให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ และขู่ว่าจะนำผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในธุรกิจนี้เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันและคุณภาพ
ในเดือนพ.ย.ปี 2559 ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวว่า ประเทศต้องการเงินลงทุนจากต่างชาติเพื่อปรับปรุงธุรกิจภาคส่วนโทรคมนาคมและพลังงาน “ ผมจะเปิดประเทศฟิลิปปินส์ บริการห่วยๆ ต้องหมดไป ” เขาเตือน