สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 4 ต.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.น่าน (91 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อุบลราชธานี (51 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ประจวบคีรีขันธ์ (28 มม.) ภาคกลาง : จ.สระบุรี (82 มม.) ภาคตะวันออก : จ.สระแก้ว (77 มม.) ภาคใต้ : จ.สงขลา (146 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : จากอิทธิพลของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางด้านตะวันออก และอ่าวไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ทำให้ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 6 – 9 ต.ค. ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 83% ของความจุเก็บกัก (66,972 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 74% (42,851 ล้าน ลบ.ม.)
3.สถานการณ์น้ำ: สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา วันที่ 4 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.
– สถานี C.2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,805 ลบ.ม. ต่อวินาที ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.19 ม.
– เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำในอัตรา 2,500 ลบ.ม. ต่อวินาทีมีระดับน้ำเหนือเขื่อน +16.20 ม.รทก และระดับน้ำท้ายเขื่อน +15.94 ม.รทก
• สถานการณ์แม่น้ำมูล วันที่ 4 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.
– สถานี M.7 อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี ปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,054 ลบ.ม. ต่อวินาที สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.35 ม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งชั่วคราว 0.15 ม.
4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (3 ต.ค. 68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ณ อาคารจุฑามาศ โดยเน้นย้ำให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ รวมทั้งหารือสถานการณ์น้ำปัจจุบัน เพื่อกำหนดแนวทางเร่งคลี่คลายปัญหาอุทกภัยที่ยังส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติ ขณะนี้เขื่อนขนาดใหญ่ในภาคเหนือทั้งเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 87- 95 ของความจุอ่างฯ จึงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำเพื่อป้องกันความเสี่ยงน้ำล้นเขื่อน และการระบายน้ำของทั้งสองเขื่อน มีผลทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น จึงได้กำชับให้ควบคุมอัตราการระบายน้ำอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งระบายน้ำส่วนเกินไปยังฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเขื่อนอย่างสมดุล รวมถึงบริหารจัดการน้ำในทุ่งลุ่มต่ำอย่างรอบคอบ โดย สทนช. จะหารือร่วมกับกรมชลประทานในเรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาตการระบายน้ำ เพื่อวางแนวทางการดำเนินงานให้เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไปด้านการแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านระบบ Cell Broadcast ได้มอบหมายให้ สทนช. ประสานงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยเน้นย้ำว่าจะต้องแก้ไขปัญหาความล่าช้าเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาระยะยาวโดยหาแนวทางในการเร่งรัดแผนงานและโครงการสำคัญต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จ
สำหรับสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันยังน้อยกว่าปี พ.ศ. 2554 และมีการบริหารจัดการอย่างเต็มศักยภาพ ถึงแม้จะมีปัจจัยจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วง แต่ได้มีการเตรียมพร้อมเร่งระบายน้ำไว้อย่างเต็มที่ และเตรียมให้ความช่วยเหลือพื้นที่นอกคันกั้นน้ำต่าง ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบ จึงขอให้มั่นใจว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงเท่าเมื่อปี พ.ศ. 2554
ทั้งนี้ สทนช. จะขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ได้แก่ ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการเพื่อการแจ้งเตือนภัย เพื่อจัดทำระบบเตือนภัยน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดหาน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำให้ประชาชนอย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ต.ค. 68