สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 24 ก.ย. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.น่าน (162 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.บึงกาฬ (61 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (55 มม.) ภาคกลาง : จ.ลพบุรี (36 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (109 มม.) ภาคใต้ : จ.ชุมพร (57 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคกลางมีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 26 – 29 ก.ย. 68 ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนตามแนวชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ผ่านเกาะไหหลำลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และในวันที่ 25 ก.ย. 68 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 78% ของความจุเก็บกัก (62,472 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 66% (38,351 ล้าน ลบ.ม.)
3.ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (23 ก.ย. 68) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมสัมมนาถอดบทเรียนการติดตามประเมินผลการบริหารจัดการน้ำและมาตรการรองรับในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/2568 โดยมีผู้แทนจาก 10 กระทรวง 32 หน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการลุ่มน้ำ เครือข่ายองค์กรผู้ใช้น้ำ นักวิชาการ ภาคประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ
สทนช. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กรอบปฏิทินที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติให้ความเห็นชอบโดยดำเนินการเป็น 3 ช่วง ตั้งแต่ช่วงเตรียมการก่อนเข้าสู่ฤดู ระหว่างฤดู และประเมินผลเมื่อเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดฤดู การประชุมสัมมนาในวันนี้จึงจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในฤดูแล้งที่ผ่านมา พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2568/2569 เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งในปีถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ตลอดช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยได้วางแนวทางแก้ไขปัญหาและมอบหมายหน่วยงานเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้น และได้ดำเนินการตาม 8 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/2568 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากทุกภาคส่วนในการประชุมครั้งนี้ ไปต่อยอดพัฒนาการดำเนินงานในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด
4.ประกาศแจ้งเตือน : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 23/2568 ลงวันที่ 22 ก.ย. 68 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ระดับน้ำแม่น้ำโขงและแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 25–30 ก.ย. 68 ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร
2. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง น่าน พะเยา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และนราธิวาส
3. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก
4. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำสาย แม่น้ำยม แม่น้ำห้วยหลวง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำป่าสัก
5. เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง บริเวณ จ.เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
6. เฝ้าระวังผลกระทบจากกรณีการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น และล้นตลิ่ง บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย อ.เสนา และผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อ.เมืองสิงห์บุรี อินทร์บุรี และพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.ไชโย และป่าโมก จ.อ่างทอง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 ก.ย. 68