เมียนมาเพิ่มจำนวนสินค้าส่งออก
รัฐบาลเมียนมาจะยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันดิบ เพชร และทองคำต้นปีหน้า ซึ่งจะทำให้รายชื่อสินค้าต้องห้ามเหลือเพียง 4 ชนิด อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้กับสื่อเมียนมาไทม์
เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลเมียนมาได้ยกเลิกสินค้า 5 ชนิดออกจากรายชื่อสินค้าห้ามส่งออกคือ เมล็ดและน้ำมันไนเจอร์ เมล็ดและน้ำมันมัสตาร์ด เมล็ดและน้ำมันดอกทานตะวัน กากน้ำมัน และรำกุ้ง ซึ่งใช้เป็นอาหารสัตว์
ส่วนสินค้าที่ยังอยู่ในรายชื่อห้ามส่งออกพร้อมกับทองคำ เพชร และน้ำมันดิบคือ วัว ม้า ควาย ช้าง และสัตว์หายากอื่นๆ อาวุธ โบราณวัตถุ และงาช้าง
อู ขิ่น หม่อง ลวิน ผู้ช่วยเลขานุการกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า มีการพิจารณายกเลิกการห้ามส่งออกทองคำ เพชร และน้ำมันดิบหลังจากมีการประชุมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มนักธุรกิจ
โดยหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมพิจารณาตัดสินใจครั้งนี้คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สมาคมผู้ประกอบการทองคำเมียนมา สมาคมสภาเหมืองแร่เมียนมา สมาคมผู้ประกอบการเพชรพลอยและอัญมณีเมียนมา ธนาคารกลาง และกรมศุลกากร
“ ทางกระทรวงจะอนุญาตให้มีการนำเข้าพร้อมกับการส่งออก หากบริษัทหนึ่งได้รับอนุญาตให้นำเข้าทองคำจากต่างประเทศได้ ก็ควรได้รับอนุญาตให้ส่งออกเครื่องประดับด้วย” เขากล่าว
“ เราต้องมีการกำหนดประเด็นที่เกี่ยวข้องมากมาย เพราะบริษัทที่ประกอบกิจการเหมืองทองคำในประเทศต้องการส่งออกทองคำ”
โดยเขาเชื่อว่า หลายบริษัทในเมียนมาจะได้รับการอนุมัติให้นำเข้าและส่งออกทองคำ และส่งออกเครื่องประดับที่ทำจากทองคำ
ผู้ค้ากล่าวว่า มีการลักลอบขนทองคำและเพชรข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องร้องขอกระทรวงพาณิชย์เมื่อช่วงต้นปีนี้ให้ปลดล็อกโลหะมีค่าออกจากรายชื่อสินค้าต้องห้าม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้รัฐบาล และช่วยแก้ปัญหาการลักลอบซื้อขายให้หมดไป
ทั้งนี้ ผู้ลักลอบขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่ปลอดภาษี ทำให้รัฐบาลขาดรายได้ อ้างอิงจากความเห็นของเจ้าหน้าที่อาวุโสของสมาคมผู้ค้าทองคำเมียนมา
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้เจรจากับกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันดิบ และจะพิจารณาให้แล้วเสร็จต้นปีหน้า
กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกอย่างต่ำที่สุดอยู่ที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2559 – 2560 และคาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อสิ้นสุดแผนงบประมาณ 5 ปี ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปีนี้.
