ก่อการร้ายในมาราวีตุนเสบียงและอาวุธ
กลุ่มติดอาวุธอิสลามซึ่งยึดครองเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมที่จะอาศัยอยู่เป็นเวลานาน เห็นได้จากการกักตุนอาหารและอาวุธไว้ในอุโมงค์และพื้นที่ใต้ดิน อ้างอิงจากการรายงานของทางการ
กองกำลังฝ่ายความมั่นคงพยายามที่จะเข้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ หลังจากกลุ่มก่อการร้ายได้บุกเข้าโจมตีเมืองมาราวีเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
การปะทะกันคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 170 ราย รวมทั้งพลเมือง 20 รายและประชาชนมากกว่า 180,000 คนในพื้นที่ต้องอพยพหนีตายออกจากเมืองอย่างอลหม่าน
เชื่อกันว่า ประชาชนหลายร้อยคนยังคงถูกกักขังโดยเหลือเสบียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการประทังชีวิต
รัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ทำการจู่โจมทางอากาศ อ้างว่ามีชัยชนะในการปะทะสู้รบครั้งนี้ แต่กลุ่มกบฎยังคงยึดบางพื้นที่ในเมืองมาราวีอยู่
เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า พวกเขาเชื่อว่ากลุ่มติดอาวุธกำลังหลบซ่อนอยู่ในโครงข่ายใต้ดินเป็นบริเวณกว้าง โดยมีการจัดตั้งกลุ่มมานานหลายปีแล้ว
รัฐบาลและกองทัพประเมินว่า จำนวนกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธที่หลงเหลืออยู่ในเมืองมาราวีจะมีอยู่ระหว่าง 40 – 200 คน
มีรายงานว่า ทางกลุ่มติดอาวุธมีการเตรียมพร้อมอย่างดีเพื่อการยึดครองมืองเป็นเวลานาน และได้ตุนเสบียงไว้ในมัสยิดและโรงเรียนสอนศาสนา ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ของการโจมตีทางอากาศจากทางรัฐบาล หลายวันก่อนที่จะเข้ายึดครองเมือง
โดยโฆษกของกองทัพ พลโท โคล โจ-อาร์ ฮาเรราให้สัมภาษณ์สื่อ AFP ว่า อาคารเหล่านี้เต็มไปด้วยเสบียงอาหารที่พอประทังชีวิตได้ประมาณ 1 เดือน รวมทั้งอาวุธด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มก่อการร้ายยังได้รวบรวมเอาอาวุธอื่นๆและเสบียงอาหารออกมาจากเมืองหลังจากบุกยึดเรือนจำและคลังแสงของเมือง อางอิงจากข้อมูลของนายเออร์เนสโต อาเบลลา โฆษกประธานาธิบดีที่ให้กับสื่อ
จากการปะทะกันในครั้งแรก ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า กลุ่มนักรบมาอูเตมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลาม หรือไอเอส โดยทั้งเมืองเกิดการจลาจล หลังจากทางการฟิลิปปินส์พยายามเข้าจับกุมตัวหัวหน้ากลุ่มคือนายฮาปิลอน
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธมาอูเตตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งกลุ่มและผู้นำ คือ อับดุลลาห์ และโอมาร์ มาอูเต.