สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 ส.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.สุโขทัย (46 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.มุกดาหาร (85 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (35 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (10 มม.) ภาคตะวันออก : จ.สระแก้ว (56 มม.) ภาคใต้ : จ.นราธิวาส (63 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตก และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 11 – 15 ส.ค. 68 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นจะส่งผลให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,381 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 49% (28,255 ล้าน ลบ.ม.)
3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 9 ส.ค. 68 ในพื้นที่ 3 จ. 6 อ. ได้แก่ จ.สุโขทัย (อ.ศรีสำโรง สวรรคโลก และกงไกรลาศ)”จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ และนครไทย) และ จ.พิจิตร (อ.สามง่าม)
4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้(9 ส.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการประเมินสถานการณ์ของพายุโซนร้อน “โพดุล” (PODUL) ในมหาสมุทรแปซิฟิก พบว่าจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย โดยขณะนี้พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกไปยังเกาะไต้หวัน และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านไต้หวันในวันที่ 13 ส.ค. 68 ก่อนขึ้นฝั่งที่มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน และสลายตัวลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าอิทธิพลของพายุดังกล่าวจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ของประเทศไทย บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ไปจนถึงภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน จึงได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและแจ้งเตือนหน่วยงานให้เตรียมความพร้อมตามกลไกมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 อย่างเคร่งครัด
ในส่วนของสถานการณ์ในลุ่มน้ำยมบริเวณ”จ.สุโขทัย ขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ โดยมวลน้ำได้ไหลผ่าน ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งเป็นจุดรับน้ำที่ไหลมาจาก จ.สุโขทัยและพิษณุโลก ไหลบ่าลงมาพื้นที่ตอนล่าง ทำให้ระดับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่สถานีวัดน้ำ Y.17 หน้าที่ว่าการอำเภอสามง่าม ระดับน้ำอยู่ที่ +36.71 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) (ระดับตลิ่ง +38.25 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง)) ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งบางจุด ไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำที่เป็นเขตชุมชน และพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของ ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบริหารจัดการน้ำเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังโดยเร็ว ทั้งนี้ มวลน้ำดังกล่าวจะไหลต่อไปยัง อ.โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล จ.พิจิตร ก่อนเคลื่อนผ่านไปยัง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ และไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป โดยยืนยันว่ามวลน้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และได้กำชับให้ สทนช. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลจะบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 9 ส.ค. 68