สรุปข่าวประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2568

สรุปข่าวประจำวัน กล้าธรรมเปิดยุทธศาสตร์ : น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์และทิศทางของพรรคกล้าธรรม ในฐานะพรรคทางเลือกใหม่ของประชาชน พร้อมเปิดใจถึงจุดยืน อุดมการณ์ และความตั้งใจที่จะยกระดับพรรคการเมืองให้เป็น “สถาบันทางการเมือง” ที่ประชาชนสามารถพึ่งพาได้อย่างแท้จริงในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤตความไม่เชื่อมั่น และสูญญากาศทางการเมือง ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ประเทศเข้าสู่ภาวะสูญญากาศ การขาดเสถียรภาพ และความไม่มั่นใจทางเศรษฐกิจและสังคม
สรุปข่าวประจำวัน

จับตาการเมือง :
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เปิดขึ้นอีกครั้ง มีกฎหมายสำคัญน่าจับตามอง โดยเฉพาะกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเสนอเข้ามาด้วยกันหลายฉบับจากแทบทุกพรรคการเมืองเลยก็ว่าได้ แต่ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ ก็คือกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคประชาชน และของภาคประชาชน ที่มีเนื้อหาเรื่องการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ส่วนร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์นั้น ล่าสุดพรรครัฐบาลได้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากวาระการประชุมของสภาเรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย ยังดึงดันที่จะพิจารณาร่างกฎหมายนี้ในสภาต่อไป ก็มีโอกาสที่กฎหมายดังกล่าวจะถูกคว่ำ เพราะนอกจากฝ่ายค้านแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ก็ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ ทางออกก็คือถอนไปก่อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาสู่การพิจารณาอีกครั้งหรือไม่

ไทยโต้กัมพูชา :
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงโต้ตอบกัมพูชา ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ว่า เรื่องวัดภูม่านฟ้าที่ฝ่ายกัมพูชาหยิบยก ว่า โดยวัดภูม่านฟ้าเป็นวัดในพุทธศาสนาที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนาที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากศิลปะและสถาปัตยกรรมจากแหล่งโบราณสถานต่างๆ ในประเทศไทย ดังนั้น จึงไม่ใช่การลอกเลียนแบบปราสาทนครวัด แต่อย่างไรก็ตาม ไทยพร้อมที่จะปรึกษาหารือร่วมกับกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว รวมถึงประเด็นอื่น ๆ บนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (11 ก.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 44,371.51 จุด ลดลง279.13 จุด (0.63%) แนสแดก ปิดที่ 22,780.60 จุด ลดลง 48.66 จุด (0.21%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,259.75 จุด ลดลง 20.71 จุด (0.33%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,121.13 จุด เพิ่มขึ้น 10.73 จุด (0.97%) มูลค่า 32,367.57 ล้านบาท
ทองคำขึ้น 100 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (11 ก.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 51,250.00 บาท ขายออกบาทละ 51,350.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 50,225.08 บาท ขายออกบาทละ 52,250.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 100 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 10 ก.ค.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (11 ก.ค.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.7638 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 44.6117 บาทต่อ 1 ปอนด์, 38.4224 บาทต่อ 1 ยูโร, 22.5599 ต่อ 100 เยน, 4.1879 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.7501 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7648 ต่อ 1 ริกิ
เชิญชวนลงทะเบียนเที่ยว :
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ได้เปิดระบบให้ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ผ่านทาง Application Amazing Thailand หรือ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสามารถลงทะเบียนได้โดยไม่จำกัดจำนวนคน โดยแต่ละท่านจะได้รับสิทธิ์สูงสุดไม่เกินท่านละ 5 สิทธิ์ แบ่งเป็นที่พักในเมืองหลัก 3 สิทธิ์ ที่พักในเมืองน่าเที่ยว 2 สิทธิ์ โดยสามารถใช้สิทธิ์วันละ 1 ห้อง/คืน
ผลกระทบภาษีทรัมป์ต่อเอสเอ็มอีไทย :
ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ระบุถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยในอัตราสูงถึง 36% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป จะทำให้เอสเอ็มอีรายย่อยต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นทันที ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ที่ถูกเรียกเก็บ 20% และมาเลเซีย 25% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าไทย ขณะที่อินโดนีเซียอยู่ที่ 32% ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ 25%
นอกจากนี้ ยังเริ่มมีสัญญาณการชะลอคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าสหรัฐฯ รวมถึงการขอต่อรองราคาหรือส่วนลดมากขึ้น เพื่อชดเชยต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรของเอสเอ็มอีรายย่อยหดตัวลงอย่างมาก
ทั้งนี้ เอสเอ็มอีที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่รับจ้างผลิตหรือส่งผ่านเทรดเดอร์ อาจเผชิญกับความเสี่ยงในการสูญเสียตลาดหลักทันทีจากการถูกยกเลิกออเดอร์หรือถูกลดปริมาณการสั่งซื้อ ผลกระทบยังลุกลามไปถึงแรงงานในภาคเอสเอ็มอี ซึ่งมีแรงงานกว่า 3.7 ล้านคน และเอสเอ็มอีเกือบ 5,000 รายที่มีข้อจำกัดในการปรับตัว

คลัง แย้มพร้อมยื่นข้อเสนอสหรัฐเพิ่ม :
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมทีมไทยแลนด์ร่วมกับอีกหลายหน่วยงานที่บ้านพิษณุโลก เพื่อประเมินและกำหนดแนวทางการเจรจามาตรการภาษีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปกว้าง ๆ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายใหม่วันที่ 1 ส.ค.นี้ จากนั้นน่าจะยังต้องทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อลงรายละเอียด ในส่วนจะได้อัตราภาษีเท่าใดนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ได้มีเป้าหมาย แต่คาดหวังว่าจะไม่เสียเปรียบคู่แข่ง และนายพิชัย ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการเจรจาภาษีสินค้าทุกตัว แต่ต้องระมัดวังในเรื่องสินค้าเกษตร เพราะแม้จะมีมูลค่าไม่มากแต่เกี่ยวพันกับคนจำนวนมาก ซึ่งจะชี้แจงให้ชัดเจน โดยไม่ทำให้เสียเปรียบประเทศอื่น และเชื่อว่าไทยจะไม่ได้รับผลกระทบสูงกว่าประทศอื่น

แบงก์ชาติ หารือ กกร. :
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. พร้อมด้วย นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน และ นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพื่อร่วมกันประเมินภาพเศรษฐกิจ และผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดย ธปท. และ กกร. จะเร่งหารือเพิ่มเติมในรายละเอียดของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในแต่ละภาคธุรกิจ รวมถึงภาคการผลิตของประเทศในภาพรวม เพื่อเสนอแนะแนวทางการลดผลกระทบ และการแก้ปัญหาระยะสั้นในมิติต่าง ๆ อีกทั้งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจปรับตัว เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ในระยะยาวต่อไป
จีน-กัมพูชา ย้ำความสัมพันธ์ :
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน และนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ได้พบปะกันที่ประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในระดับทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน นายหวัง อี้ กล่าวว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับกัมพูชายืนหยัดผ่านความผันผวนระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน และมั่นคงดุจหินผา โดยจีนและกัมพูชาควรเสริมสร้างความร่วมมือภายใต้กรอบข้อริเริ่มสำคัญ 3 ประการ เพิ่มพูนกรอบความร่วมมือ “เพชรหกเหลี่ยม” (Diamond Hexagon) ระหว่างสองประเทศ ดำเนินการตามแผนความร่วมมือ “ระเบียงการพัฒนาอุตสาหกรรม” และ “ระเบียงปลาและข้าว” รวมถึงส่งเสริมการดำเนินโครงการระยะแรก (early harvest)
แคนาดาเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ :
นายกรัฐมนตรี มาร์ค คาร์นีย์ ผู้นำแคนาดา เปิดเผยว่า แคนาดาเตรียมเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเดดไลน์ใหม่วันที่ 1 ส.ค. คาร์นีย์ระบุว่า แคนาดามีความคืบหน้าอย่างมากในการหยุดยั้งภัยคุกคามจากเฟนทานิลในอเมริกาเหนือ พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาที่จะเดินหน้าทำงานกับสหรัฐฯ ต่อไป เพื่อช่วยชีวิตและปกป้องชุมชนของทั้งสองประเทศ
Tesla เตรียมเปิดโชว์รูมแห่งแรกในอินเดีย :
เทสลา (Tesla)เปิดเผยในงานแถลงข่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดโชว์รูมแห่งแรกอย่างเป็นทางการในอินเดีย ณ บันดราคูร์ลา คอมเพล็กซ์ (Bandra Kurla Complex) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำของมุมไบในวันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่น ๆ มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก แม้ว่า อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทจะแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าของอินเดียก็ตาม

เฟรมลูกรักพระเจ้า :
งานนี้แฟน ๆ มีเฮ เมื่อ GrabFood จัดหนักจัดเต็มเปิดตัวแคมเปญใหญ่แห่งปี “GrabFood Mega Sale ลดแรง ตัวจริง” ที่ One Bangkok โดยดึง 4 หนุ่มสุดฮอตแห่งวงการบันเทิงไทยอย่าง เจมีไนน์-นรวิชญ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์, สกาย-วงศ์รวี และ นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ในฐานะ “Friends of Grab” ร่วมเสิร์ฟความฟินแบบไม่พัก พร้อมแท็กทีมศิลปิน T-POP สุดจี๊ดจาก BUS และ PiXXiE จัดกิจกรรมสุดใกล้ชิดและมินิคอนเสิร์ตแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ทำเอาแฟนคลับหัวใจละลาย บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดเมื่อ 8 หนุ่มจาก Friends of Grab และ BUS ปรากฏตัวพร้อมกัน จุดฉาก #เฟรมลูกรักพระเจ้า กลางอีเวนต์ ก่อนจะจัดกิจกรรมดวลกันแบบไม่มีใครยอมใคร เพื่อเฟ้นหาตัวจริงแห่ง “สงครามความคุ้ม” พร้อมโชว์พลังเอเนอร์จี้แบบล้นเวทีให้แฟน ๆ ได้สนุกสุดเหวี่ยงไปตาม ๆ กัน

“น้องเกล” ไหว้สวย :
ล่าสุด อินสตาแกรม @hellomemie ก็ได้เผยให้เห็นโมเมนต์น่ารักๆ เมื่อมีโอกาสได้เจอและพูดคุยกับ น้องเกล ด้วยความเป็นกันเองจากดาราสาวตัวน้อย โดย น้องเกล ได้รับเงินเป็นแบงค์ 20 บาทจากพี่ๆ แฟนคลับ จากตอนแรกที่มีสีหน้าบึ้งตึง เปลี่ยนรอยยิ้มสดใสที่แก้มแทบปริกันไปเลย บวกกับการก้มไหว้สวยๆ พร้อมเอ่ยคำขอบคุณจากหัวใจ ทั้งนี้ น้องเกล ยังได้บอกอีกว่า เงิน 20 บาทที่ได้จะนำไปซื้อไอศกรีมที่เซเว่นมากินให้เอร็ดอร่อย ทำเอาคนที่ได้เห็นต่างเอ็นดู และเข้ามาคอมเมนต์กันสนั่น
เศรษฐา ชู 3 เหตุผล :
อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ชู 3 เหตุผลสำคัญ ชวนสังคมเปลี่ยนมุมมอง เชิดชู “นักกีฬาไทย” ผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างชื่อเสียงให้ชาติ สมควรได้รับการยกย่องในระดับชาติ เทียบเท่าศิลปินแห่งชาติในวงการศิลปะ โดย 3 เหตุผลนั้นคือ 1.ภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุม 2.ควรยกย่องนักกีฬาในระดับชาติ และ 3.พัฒนาฐานข้อมูลและระบบสถิติ เศรษฐาทิ้งท้าย: “ความมีวินัยและความอดทน คือหัวใจของนักกีฬา”
โชว์ฟอร์มเฉียบ :
นักแข่งจากทั่วประเทศกว่า 138 คน จาก 50 ทีม ตบเท้าเข้าร่วมชิงชัย ดวลความเร็วในหลากหลายรุ่นสุดเร้าใจ พร้อมหน้าแข้งเยาวชน-มหาวิทยาลัยโชว์ฟอร์มเฉียบ ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย โตโยต้า -ทู ดับเบิลยู สนาม 3 คึกคัก นักซิ่ง 138 คน ดวลความเร็วกลางแม่น้ำปิง
ครองอันดับ 2 :
ทีมจอมพลังเยาวชนทีมชาติไทย คว้าถ้วยคะแนนรวมอันดับ 2 ในการแข่งขันยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2025 ที่กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน หลังช่วยกันทำผลงาน คว้าเหรียญในประเภทเยาวชนได้ถึง 6 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง (ยุวชน 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐบาลมั่นใจท่องเที่ยวฟื้น ยอดจดทะเบียนบริษัททัวร์พุ่งกว่า 14%