สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 มิ.ย. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงราย (106 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.นครราชสีมา (63 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (32 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (46 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (268 มม.) ภาคใต้ : จ.ระนอง (49 มม.)
วันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 24 – 26 มิ.ย. 68 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
2. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก :
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐาน
3. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 56% ของความจุเก็บกัก (45,215 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 36% (21,102 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (22 มิ.ย. 68) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงเหนือ ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ศาลากลาง จ.เชียงราย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำแม่น้ำกก บริเวณหาดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย พร้อมติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำสาย บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 และการก่อสร้างพนังกั้นน้ำชั่วคราว-กึ่งถาวร รวมถึงปัญหาคุณภาพน้ำแม่น้ำสาย อ.แม่สาย และพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยบริเวณคันกั้นน้ำและถนนทางหลวงชนบทที่ชำรุดใน ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตามลำดับ
จากการประชุมหารือ สทนช. ได้บูรณาการร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและ สสน. เพื่อวิเคราะห์ คาดการณ์และประเมินแนวโน้มปริมาณน้ำฝน น้ำท่า น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มหรือน้ำล้นตลิ่งในปี 2568 โดยพบว่า จ.เชียงราย เป็นพื้นที่มีความเสี่ยงสูงที่จะประสบภัยเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ มีน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
มีตะกอนดินทับถมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ตลอดลำน้ำของแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกมีความตื้นเขิน ประกอบกับในช่วงต้นฤดูฝนปีนี้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สายไปแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้น การตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงเหนือ ที่ จ.เชียงราย จึงมีความสำคัญในการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานส่วกลางและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงป้องกันล่วงหน้า โดยเฉพาะการประเมิน คาดการณ์ ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้า และสามารถป้องกันภัยได้ตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำ สำหรับการรับมือสถานการณ์ฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือในปีนี้ สทนช.จะประสานข้อมูลฝนคาดการณ์ล่วงหน้า 10 วัน จากกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ครอบคลุมบริเวณพื้นที่ประเทศเมียนมาและประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ในการวางแผนการทำงานเชิงป้องกัน
สำหรับความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำสายขณะนี้ดำเนินการไปแล้วเพียงบางส่วน ความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำรวกผลการดำเนินการเป็นไปตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือน มิ.ย.หรือกลางเดือน ก.ค. 68.นี้ และในส่วนการขุดลอกแม่น้ำกก สทนช. จะเร่งประสานติดตามการจัดสรรงบประมาณและการดำเนินการขุดลอกให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้มีการติดตามการดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว-กึ่งถาวรในพื้นที่เขตเศรษฐกิจของ อ.แม่สาย ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ จะทำงานควบคู่ไปกับกองทัพบก เพื่อบรรเทาผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 มิ.ย. 68