ดูเตอร์เตทิ้งสหรัฐฯ ซบจีน
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ประกาศนโยบายการแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน และเปลี่ยนมาพึ่งพาจีน โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะมีการพุดคุยกันเรื่องกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้
โดยในการประชุมที่มีนักธุรกิจของจีนและฟิลิปปินส์ประมาณ 700 คน ในมหาศาลาประชาคมนั้น ประธานาธิบดีดูเตอร์เต วัย 71 ปี ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีได้กล่าวว่า อเมริกาต้องสูญเสียหลังจาก 70 ปีของการเป็นพันธมิตรของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ต่อหน้านายจาง เกาลี่ รองประธานาธิบดีของจีน ผู้นำฟิลิปปินส์ได้แถลงว่า “ เราได้ปรับนโยบายให้เข้ากับอุดมการณ์ของจีน และผมอาจไปรัสเซียเพื่อพุดคุยกับประธานาธิบดีปูตินเพื่อบอกว่่า มีเราสามประเทศที่ผนึกกำลังรวมกัน จีน ฟิลิปปินส์ และรัสเซีย นี่เป็นหนทางที่ดี ”
ประธานาธิบดีดูเตอร์เตยังได้กล่าวว่า “ ผมแยกจากสหรัฐฯแล้ว ผมคงต้องพึ่งจีนไปตลอด แต่อย่ากังวลไปเลย เราก็จะช่วยจีนอย่างที่จีนช่วยเรา ”
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมายาวนาน แต่ความสัมพันธ์ต้องแปรเปลี่ยนไปเมื่อสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์การปราบปรามยาเสพติดที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายของประธานาธิบดีดูเตอร์เตและผู้นำฟิลิปปินส์ได้โต้ตอบอย่างดุเดือด
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ทางการสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ฟิลิปปินส์ยังไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับสหรัฐฯ
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มองฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรที่สำคัญในเอเชีย เนื่องจากจีนกำลังกลายเป็นประเทศที่มีอิทธิพลสูงของโลก
โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค. จีนให้การต้อนรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 4 วัน ของผู้นำฟิลิปปินส์อย่างสมเกียรติ มีการปูพรมแดงเป็นทางเดินยาวให้ผู้นำทั้งสองคนพร้อมกองทัพที่จัดแถวแสดงความเคารพ นอกจากนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมนักธุรกิจ 400 คน ยังได้ใช้มหาศาลาประชาคมเป็นสถานที่จัดการประชุม ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณขั้นแรกในการประสานรอยร้าวของความสัมพันธ์ที่หมางเมินกันมาหลายปี
ในการประชุม ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่เปรียบเสมือนพี่น้องกันทางสายเลือดและเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยตกลงเรื่องกรณีพิพาทได้อย่างเหมาะสม
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ทั้งสองประเทศได้ประชุมกันเรื่องการให้ความร่วมมือทางการประมง ซึ่งรวมถึงการที่จีนอนุญาตให้ชาวประมงฟิลิปปินส์เข้าไปในน่านน้ำที่มีกรณีพิพาท การปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์น้ำ และการทำธุรกิจแปรรูปปลา
ทั้งนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์มีกำหนดจะเดินทางกลับไปที่บ้านเกิดคือเมืองดาเวาในบ่ายวันที่ 21 ต.ค. นี้ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมกับนักธุรกิจจีนที่มีอย่างต่อเนื่อง.