เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนครึ่งที่ 36.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าหลังจากตลาดประเมินว่า เฟดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นี้
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องสอดคล้องกับการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดและตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือนมิ.ย. ที่ชะลอลงมากกว่าที่คาด หนุนให้ตลาดปรับเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้สำหรับโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC เดือนก.ย. ที่จะถึงนี้ โดย CPI Inflation ของสหรัฐฯ ชะลอลงลงมาที่ 3.0% YoY ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ที่ 12 ก.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนครึ่งที่ 36.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 ก.ค. 67)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 8-12 ก.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3,149.7 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 8,716 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 10,347 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 1,631 ล้านบาท)
สัปดาห์ถัดไป (15-19 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ ระดับ 36.00-36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาคถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดท่านอื่น และผลการประชุม ECB ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนก.ค. ยอดค้าปลีก ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. รายงาน Beige Book ของเฟด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน
รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของอังกฤษยูโรโซนและญี่ปุ่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เงินบาทแข็งค่า หลังต่างชาติไหลเงินออกน้อยลง