“พีระพันธุ์” ตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าลำตะคอง
“พลังงาน” โชว์ศักยภาพโรงไฟฟ้าลำตะคองความมั่นคงควบคู่แหล่งท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ระบุรัฐบาลพร้อมหนุนโครงการพลังงานสะอาดเต็มที่
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์) ในการนี้ได้เข้าตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา พื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำตะคอง อ่างพักน้ำตอนบนและกังหันลมบนเขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วยผู้บริหาร กฟผ. ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายข้อมูลโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา (โรงไฟฟ้าใต้ดิน) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำตะคอง และโครงการเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำตอนบนส่วนขยายลำตะคอง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พน. กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มาเพื่อตรวจพื้นที่ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา และพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง ซึ่งติดตั้งท้ายเขื่อนของกรมชลประทาน ขนาด 1.5 เมกะวัตต์ โดยกระทรวงพลังงานและกรมชลประทาน มีนโยบายนำน้ำที่ปล่อยจากระบบกรมชลประทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนเป็นการใช้เชื้อเพลิงน้ำมาผลิตไฟฟ้าแล้วปล่อยกลับลำรางสาธารณะเช่นเดิม ถือเป็นการเก็บเล็กผสมน้อยสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานพร้อมสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดทุกประเภท ซึ่งจะเห็นได้จากแผน PDP2024 ที่มีการเพิ่มพลังงานสะอาดในสัดส่วนที่สูง ทั้งเชื้อเพลิงจากน้ำและโซลาร์เซลล์ เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ.2050
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ มีลักษณะเป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย อยู่ลึกจากผิวดินประมาณ 350 เมตร มีขนาดกำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์ โดยสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อนกรมชลประทาน ไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง ซึ่งสามารถเก็บกักน้ำได้ 10.3 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยหรือช่วงกลางคืนถึงเช้า และเมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวันถึงค่ำ จะปล่อยน้ำเพื่อผลิตและปล่อยลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองเหมือนเดิม ทั้งนี้ศักยภาพพื้นที่อ่างเก็บน้ำตอนบน สามารถขยายเพื่อเพิ่มศักยภาพระบบกักเก็บพลังงาน ขนาดความจุ 3.3ล้าน ลบ.ม. เพื่อเสริมการผลิตไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นับเป็นโรงไฟฟ้าที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้
สำหรับอ่างเก็บน้ำตอนบน และกังหันลมบนเขายายเที่ยง เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อช่วยเสริมความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้า โดยมีกังหันลมจำนวน 14 ต้น กำลังผลิตติดตั้งรวม 26.5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นขนาดกำลังผลิตต้นละ 1.25 เมกะวัตต์ จำนวน 2 ต้น และขนาดกำลังผลิตต้นละ 2 เมกะวัตต์ จำนวน 12 ต้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมาสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พีระพันธ์ุ “ปลื้ม” ได้ช่วยเหลือประชาชนเกินกว่าที่สัญญาไว้