“จตุพร” ท้า “ทักษิณ” ไปพบอัยการ ส่งฟ้องศาลคดี 112
จตุพร ดักทางทักษิณคิดหนี เหตุความมั่นใจไฟเขียวร่อยหรอติดดิน เชื่อ 18 มิ.ย.โอกาสไม่ไปพบ อสส.มีสูง ท้ากล้าๆ หน่อยไปศาลอย่างสง่างาม มากภาวะผู้นำ หรือยอมติดคุกจะฟื้นศรัทธากระบวนการยุติธรรมได้อักโข
(12 มิ.ย.67) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า การดิ้นยื่นของความเป็นธรรมในคดี ม.112 ของทักษิณ ชินวัตร ไม่อาจแปรเปลี่ยนคำฟ้องศาลของอัยการสูงสุดได้อีกแล้ว ดังนั้น ต้องถูกนำตัวไปขึ้นศาลไต่สวน แต่มีทางเดียวที่จะรอดคดีได้ คือ ไม่ไปตามอัยการนัดไว้
“สิ่งสำคัญคือ ทักษิณ ยังมีความมั่นใจจริงๆ อะไรเหลืออยู่บ้าง การประกาศเสียงดังก่อขัดแย้งไปทั่วแสดงถึงความมั่นใจไม่มีเหลืออยู่ อีกอย่างอยู่ดีไม่ดีไปหาเรื่องคนบ้านป่า โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังนิ่งไม่ตอบโต้ เพราะรู้ดีว่า คนอย่างทักษิณอยู่ในบริบทไหน ส่วนการประกาศกับคนเสื้อแดงว่า ผมกลับมาแล้ว โดยไม่บอกต่อว่า ผมจะไปอีกแล้ว”
อีกทั้งกล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีอะไรมายืนยันว่า ทักษิณ จะไปพบอัยการในวันที่ 18 มิ.ย. แม้ตนอยากให้ไปเพราะต้องการให้อยู่ในโลกความจริง ได้ซึมซับความรู้สึกคนติดคุกที่ไปต่อสู้เพื่อทักษิณมาแล้ว ถ้าทักษิณจะหนีต้องไปก่อนถึงวันที่ 18 มิ.ย.
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้มีปรากฎการณ์ประหลาดขึ้น โดยวันที่ 18 มิ.ย.เป็นวันอังคาร มีการประชุม ครม. แต่ศาล รธน.นัดพิจารณาถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ทั้งที่ปกติแล้วจะประชุมกันทุกวันพุธ อีกอย่างการยุบพรรคก้าวไกล ศาล รธน.ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อจะได้พิจารณาต่อไป ดังนั้น 18 มิ.ย.จึงเป็นแรงเหวี่ยงทางการเมืองครั้งสำคัญ
“ถ้าทักษิณ มาพบอัยการเพื่อนำตัวไปฟ้องศาล หากไม่ได้ประกันตัว การเมืองจะวุ่นวายที่สุด ไม่ว่ามุมใดทางการเมืองมีโอกาส สส. เพื่อไทย และก้าวไกล อาจอพพยพไปพรรคอื่นอย่างไม่เป็นทางการมากขึ้น สภาพการเมืองแบบนี้ไม่อาจแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอะไรได้”
พร้อมทั้งระบุว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ในวันที่ 18 มิ.ย. อาจไม่ได้เห็นตัวทักษิณ ไปพบอัยการก็ได้ แต่คนที่มีหน้าที่หากไม่ต้องการให้ออกนอกประเทศแล้ว ทักษิณ ก็ออกไปไม่ได้ง่ายๆ แน่ แต่ถ้าติดคุก กรมราชทัณฑ์จะผวามากที่สุด
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์พลิกเปลี่ยนไม่มีไฟเขียว อัยการจึงสั่งฟ้องทักษิณ ดังนั้น โอกาสที่กระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำลายป่นปี่มาช่วง 9 เดือน ได้พลิกฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาได้บ้าง อีกอย่างถ้าทักษิณ กล้าหาญยอมเข้าคุกอย่างสง่างาม ยิ่งช่วยให้ระบบยุติธรรมเป็นความหวังของประเทศได้บ้าง
“ผมไม่ได้ดูแคลนว่า กล้าหรือไม่กล้า แต่ต้องการปลุกความรับผิดชอบของทักษิณ เพราะตลอดกว่า 10 ปีมานี้บ้านเมืองเสียหายไม่รู้เท่าไร มีคนตาย คนติดคุกไม่รู้เท่าไร เพียงแค่ตัวเองเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามแบบที่ยืนถวายฎีกาที่บอกเคารพกระบวรการยุติธรรมและสำนึกทำความผิดจริงก็เท่านั้น แล้วกล้าเดินเข้าคุกอย่างแมนๆ”
พร้อมทั้งถามว่า เมื่อถวายฎีกาเสร็จ ได้รับการลดโทษ แล้วไม่ยอมติดคุกสักวัน แต่กลับมาบอกว่าถูกยัดข้อหาคดี 112 ถึง 2 ครั้งแล้ว ถามว่า เคารพกระบวนการยุติธรรมคืออะไร ยอมรับทำผิดเรื่องอะไร ที่บอกว่า สำนึกแล้วคืออะไร
“ผมท้าให้ทักษิณ ไปพบอัยการในวันที่ 18 มิ.ย. ถ้าไม่ไปจะเสียภาวะผู้นำเลย แล้วต่อไปใครจะมาเรียกร้องให้กลับบ้านอีก สิ่งสำคัญผู้นำต้องเป็นแบบอย่างในการต่อสู้ ดังนั้น ทักษิณ ควรไปตามนัดของอัยการเพื่อนำตัวไปฟ้องศาล ขอให้ไป แสดงความกล้าหน่อย ไปแบบสง่างาม แม้ไม่รู้ว่า จะได้ประกันตัวหรือไม่ก็ตาม”