ศาลไม่อนุมัติหมายจับบอสซัมซุง
ศาลในเกาหลีใต้ปฏิเสธคำขออนุมัติหมายจับของอัยการ ที่ต้องการจับกุมตัวนายอี แจ ยอง ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทซัมซุงในคดีที่กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับการติดสินบน ยักยอกทรัพย์ และให้การเท็จ
โดยทางศาลได้มีคำสั่งออกมาเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า ยังไม่มีเหตุผลและหลักฐานเพียงพอที่จะจับกุมตัวนายอีจากข้อกล่าวหาทั้ง 3 ข้อนั้น
ทั้งนี้ นายอีเฝ้ารอการตัดสินของศาลตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.ข้ามคืนมาจนถึงวันที่ 19 ม.ค.
โดยกระบวนการสอบสวนและตั้งข้อหาจากอัยการเป็นส่วนหนึ่งของข่าวฉาวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งทำให้สภาลงมติถอดถอนประธานาธิบดีพัค กึน ฮเย ออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ
ทางบริษัทซัมซุงยืนยันว่าไม่ได้ทำความผิดใดๆ โดยออกแถลงการณ์ว่า ข้อดีของคดีนี้คือสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ต้องมีการคุมตัวกักขังใดๆ
ที่ผ่านมา ทางอัยการกล่าวหาว่า ซัมซุงจ่ายเงินจำนวน 36.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในช่วงที่มีการควบรวมกิจการในเครือ แต่ทางซัมซุงยอมรับแต่เพียงว่า ได้จ่ายเงินจริงแต่ยืนยันว่า ไม่ได้คาดหวังถึงผลประโยชน์ตอบแทนจากรัฐบาล
ทางอัยการพิเศษของเกาหลีใต้จึงประกาศว่านายอีเป็นผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดและยื่นขอต่อศาลอย่างเป็นทางการให้อนุมัติหมายจับนายอีเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แต่หลังจากพิจารณาจากหลักฐานทั้งหมดแล้ว
ศาลได้ตัดสินว่า เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับถึงความจำเป็นและข้อเท็จจริงของการจับกุมตัวในระยะเวลาปัจจุบัน
ส.ส.หลายคนจากพรรคฝ่ายค้านให้ความเห็นว่า การตัดสินของศาลครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายและเพิกเฉยต่อพลังของความรู้สึกอ่อนไหวของประชาชน
สื่อในเกาหลีใต้รายงานว่า ความหวังของทางอัยการที่จะเห็นประธานาธิบดีพัคได้รับโทษตามกฎหมายอาจต้องพังทลายไปจากการที่ศาลปฏิเสธที่จะอนุมัติหมายจับนายอีในครั้งนี้
บริษัทซัมซุงเป็นบริษัทที่มีผลกำไรสูงที่สุดในเกาหลีใต้ และยอดขายรวมของบริษัทคิดเป็น 20% ของตัวเลขจีดีพีของประเทศเกาหลีใต้
ปัจจุบัน นายอีรั้งตำแหน่งรองประธานของบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ แต่หลังจากที่นายอี คุน ฮี บิดาของเขามีอาการหัวใจวายในปี 2557 เขาก็ได้ทำหน้าที่ประธานบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์โดยพฤตินัยมาโดยตลอด.