สหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์กับลาว
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกาไปเยือนวัดในหลวงพระบางเมื่อวันที่ 7 ก.ย.เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เขายกย่องวัฒนธรรมของลาวหลังจากประกาศว่าสหรัฐฯ จะช่วยกำจัดซากระเบิดที่ตกค้างอยู่ในลาวมาตั้งแต่สงครามเวียดยามในอดีต
โดยประธานาธิบดีโอบามาได้ไปเยือนเมืองหลวงพระบาง ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของลาว ซึ่งเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ที่งดงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ทั้งนี้ หลวงพระบางเป็นเมืองศูนย์กลางทางศาสนาพุทธมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14
สถานที่ที่ผู้นำของสหรัฐฯ ไปเยือนเป็นแห่งแรกคือวัดเสียงทอง ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘วัดของเมืองทองคำ’ โดยเขาได้กล่าวชื่นชมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของวัดว่า “ งดงามมาก ”
มีกลุ่มพระสงฆ์ของวัดมาร่วมต้อนรับนายโอบามาด้วย โดยเขาพยายามจะจับมือทักทายกับเณรเกือบ 20 รูป แต่ทางมัคคุเทศก์แนะนำว่า ไม่สมควรที่จะจับมือ เขาจึงถ่ายรูปร่วมกันแทน ก่อนที่จะเดินหาซื้อของฝากให้กับบุตรสาวทั้ง 2 คน นอกจากนี้ เขายังได้ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนโชว์ให้สื่อเห็นด้วย
ทั้งนี้ เขานับเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ที่ได้มาเยือนลาวและได้ย้ำว่าเพื่อเป็นการเยียวยาบาดแผลที่สหรัฐฯ กระทำไว้ในช่วงสงครามเวียดนามในอดีต โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยการให้คำมั่นว่า สหรัฐฯ จะจ่ายเงินจำนวน 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับลาวในช่วง 3 ปี ต่อจากนี้เพื่อใช้ในการกำจัดซากระเบิดทั้งหมดในลาว
โดยเขาได้กล่าวในระหว่างการไปเยือนศูนย์บำบัดฟื้นฟูในกรุงเวียงจันทน์ว่า “ ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา พลเมืองของลาวต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้เงาของสงคราม สงครามที่ไม่ได้จบลงตั้งแต่ระเบิดถูกทิ้งลงมา ”
มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บประมาณ 20,000 คนในลาวหลังจากสงครามเวียดนามจบลง โดยเมื่อเขาได้พบกับทุมมี่ สีลำพันที่ต้องใช้แขนเทียมหลังจากถูกระเบิดจนสูญเสียแขนข้างหนึ่ง เขาได้กล่าวชื่นชมว่า “ คุณเป็นแรงบันดาลใจของผม ”
ประธานาธิบดีโอบามาไม่ได้มาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่หวังว่าการช่วยเก็บกวาดระเบิดในลาวจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อการก้าวเดินไปข้างหน้าร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ กับลาวอย่างมั่นคง
ในช่วงสงครามเวียดนาม กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดในลาวเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงของฝ่ายคอมมิวนิสต์ในเวียดนาม โดยจำนวนระเบิดที่ทิ้งลงมาที่ลาวมีมากกว่าระเบิดของเยอรมนีและญี่ปุ่นรวมกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าตกใจที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับรู้ในวันแรกที่มาเยือนกรุงเวียงจันทน์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามาเป็นหนึ่งในผู้นำจากหลายชาติที่มาเยือนลาวเพื่อเข้าร่วมในการประชุมกับกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยลาวเป็นประธานในการประชุมปีนี้.