ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังพุ่งแรง เหนือ-อีสานหนัก
ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง พบ 19 จังหวัดโซน ภาคเหนือ – ภาคอีสาน มีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนพื้นที่ กทม. คุณภาพอากาศดีทั่วทุกเขต
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 18 มีนาคม 2567 พบ 19 จังหวัดภาคเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ อาทิ #แม่ฮ่องสอน 160.6 ไมโครกรัม #เชียงราย 148.8 ไมโครกรัม #พะเยา 135.4 ไมโครกรัม #เชียงใหม่ 135.2 ไมโครกรัม #ลำพูน 131.7 ไมโครกรัม #น่าน 114.6 ไมโครกรัม #ลำปาง 112 ไมโครกรัม #แพร่ 94.5 ไมโครกรัม #สุโขทัย 93.8 ไมโครกรัม #ตาก 92.2 ไมโครกรัม #อุตรดิตถ์ 85.5 ไมโครกรัม #อำนาจเจริญ 82.7 ไมโครกรัม #กาฬสินธุ์ 82.3 ไมโครกรัม #เลย 82.2 ไมโครกรัม #อุบลราชธานี 81.0 ไมโครกรัม #มุกดาหาร 79.3 ไมโครกรัม #นครพรม 77.6 ไมโครกรัม #ยโสธร 76.5 ไมโครกรัม #พิษณุโลก 75.9 ไมโครกรัม
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้พบค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดีทั่วทุกเขตพื้นที่
แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนเหนือภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบราย ชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”