Mission “ทักษิณ” เอาชนะก้าวไกล พายิ่งลักษณ์ กลับบ้าน ดันลูกสาวเป็นนายกฯ
ภารกิจ ทักษิณ ชินวัตร โจทย์ใหญ่เอาชนะก้าวไกล พาน้องสาวยิ่งลักษณ์ กลับบ้าน ดันลูกสาวเป็นนายกฯ
ทักษิณ ชินวัตร กลายเป็นศูนย์รวมอำนาจ หลังพักโทษ เห็นได้จากสัปดาห์แรกที่ได้กับการพักโทษ ก็มีสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา บินตรงมาเยี่ยมทักษิณโดยเฉพาะ พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญชวนแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเยือนกัมพูชา คาดว่าจะมีการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ในพื้นที่พิพาทของทั้ง 2 ประเทศด้วย
โดยหลังจากทักษิณได้รับการพักโทษและพำนักอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทักษิณจะกลายเป็นศูนย์อำนาจในการต่อรองอำนาจ ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมือง
เพราะนักการเมืองต่างรู้ดีว่า ทักษิณ มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจว่า พรรคเพื่อไทย จะเดินไปในทิศทางใด ดังนั้น การเจรจาต่อรองและการตัดสินใจของทักษิณ จึงถือว่าเป็นที่สุด ไม่มีเป็นอื่นอีกแล้ว
พร้อมกันนี้ การพักโทษของทักษิณ นำความท้าทายมาสู่ เศรษฐา ทวีสิน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อทักษิณ กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจ ถนนทุกสายต่างมุ่งไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จึงไม่แปลกที่เศรษฐา จะเผชิญกับคำถามว่า ประเทศไทยในวันนี้ ใครมีอำนาจตัวจริง หรือ คำถามที่ว่า ไทยมีนายกฯ 2 คน หรือไม่
เพราะต้องอย่าลืมว่าเศรษฐา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ จากการสนับสนันของทักษิณ ชินวัตร และเศรษฐา เป็นนายกฯขาลอย ไม่มี สส.หนุนหลัง ดังนั้น เก้าอี้นายกฯของเศรษฐา จึงไม่ค่อยมั่นคง
ณ วันนี้เราจะเห็นว่าเศรษฐา เดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างบ้าคลั่ง เพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เศรษฐา อาศัยคะแนนนิยมของพรรคมาตลอด
+++Mission ทักษิณ
หลังการพักโทษและรอวันพ้นโทษ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกมองว่ามีภารกิจ สำคัญ ดังนี้
1)สร้างความแข็งเกร่งให้พรรคเพื่อไทย
ภารกิจแรกของทักษิณ คือการสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคเพื่อไทย เรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน
ที่ผ่านมา ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่ชื่นชมผลงานเก่าๆของทักษิณ ตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค , พักหนี้ , การแก้ไขปัญหายาเสพติด , โอท็อป ฯลฯ
แน่นอนเมื่อทักษิณ กลับประเทศไทย ย่อมมีพลังในการขับเคลื่อนพรรคมากกว่าอยู่ต่างประเทศ ดังนั้น จึงอยู่ที่ว่า ทักษิณ จะเลือกใช้วิธีการใด เพื่อสร้างความนิยมให้กับพรรคเพื่อไทย ให้กลับมาชนะใจประชาชนอีกครั้ง
2)เอาชนะพรรคก้าวไกล
โจทย์ของทักษิณในการทำการเมืองหลังจากนี้คือ จะเอาชนะพรรคก้าวไกลได้อย่างไร
ย้อนไปการเลือกตั้งปี 2566 พรรคของทักษิณ แพ้การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยได้ สส.141 ที่พรรค ขณะที่พรรคก้าวไกล ได้ สส.151 ที่นั่ง
หลายคนมองว่า แบรนด์ทักษิณ ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในอดีตอีกไปต่อ หลังเจอคลื่นลูกใหม่ทางการเมืองแบบพรรรก้าวไกล ที่นำเสนอสิ่งที่พรรคการเมืองอื่นมองข้าม คือการแก้ไขปัญหาโครงสร้าง โดยโจทย์การเอาชนะพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับทักษิณและพรรคเพื่อไทย
3)พายิ่งลักษณ์ กลับบ้าน
หลังทักษิณกลับไทย อีกภารกิจที่ทักษิณ จะไม่ทำไม่ได้ ก็คือการพาน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ยิ่งลักษณ์ หนีคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 2560 โดยศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา
การที่ยิ่งลักษณ์ ต้องระเห็ดระเหินไปอยู่ต่างประเทศ ถือเป็นตราบาปของทักษิณ ผู้ที่ชวกชวนให้ยิ่งลักษณ์ ลงเล่นการเมือง ทั้งที่ความเป็นจริง ยิ่งลักษณ์ แทบไม่เคยสนใจการเมืองเลย
ด้วยเหตุนี้ ทักษิณ จึงจะต้องพายิ่งลักษณ์กลับประเทศไทยให้ได้ และถ้าทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ ทักษิณ คงนอนตายตาไม่กลับ
4)ดันอุ๊งอิ๊งค์เป็นนายกฯ
ว่ากันว่า เศรษฐา จะเป็นนายกรัฐมนตรี แค่สมัยเดียว หลังจากนั้น หากพรรคเพื่อไทยยังสามารถรวมเสียงข้างมากได้ แพทองธาร ชินวัตร จะขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 31
และจะว่าไป คะแนนนิยมของอุ๊งอิ๊งค์ ถือว่าดีกว่าเศรษฐา และ สส.พรรคเพื่อไทยเอง ก็ชอบอุ๊งอิ๊งค์มากกว่าเศรษฐา เพราะอุ๊งอิ๊งค์ เข้าใจการเมืองและนักการเมืองมากกว่าเศรษฐา
ทัังหมดนี้ ถือภารกิจของทักษิณ ที่ถูกมองว่า จะต้องทำหลังจากพักโทษ