บาทอ่อนค่า 36.20 อ่อนสุดในรอบ 3 เดือน
เงินบาทยังคงอ่อนค่า โดยทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ 36.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์
เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นของตลาด ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่าลง สวนทางเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด
ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดอาจต้องยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานานและจังหวะการปรับลดดอกเบี้ยคงไม่เกิดขึ้นเร็วในรอบการประชุม FOMC ใกล้ๆ นี้ (US CPI +3.1%YoY ในเดือนม.ค. สูงกว่าตลาดคาดที่ +2.9%YoY) เงินบาทยังคงอ่อนค่า ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย หลังแกว่งกรอบแคบตลอดสัปดาห์
นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่ายังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกที่ร่วงหลุดระดับ 2,000 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ลงมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี
กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทชะลอลงบางส่วนและเงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ตามจังหวะการกลับมาซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯอ่อนค่าลงมาตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯหดตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดในเดือนม.ค.
ในวันศุกร์ที่ 16 ก.พ. 2567 (ก่อนช่วงตลาดนิวยอร์ก) เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.04 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 35.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9ก.พ. 67)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 12-16 ก.พ. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3,343 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflowsออกจากตลาดพันธบัตรไทย 6,113 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 5,963 ล้านบาทและตราสารหนี้หมดอายุ 150 ล้านบาท)
สัปดาห์ถัดไป (19-23 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 35.70-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของไทย
ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติและถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนก.พ. ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 30-31 ม.ค.
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของธนาคารกลางจีนข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของยูโรโซน และ PMI (เบื้องต้น) เดือนก.พ. ของญี่ปุ่น อังกฤษและยูโรโซนด้วยเช่นกัน