สปป.ลาว ยันไม่เคยเบี้ยวหนี้ใคร
• กระทรวงการคลังลาวยันฐานะการเงินแข็งแกร่ง
• เงินเฟ้อพุ่ง-เงินกีบอ่อนไม่กระทบรายได้รัฐบาล
• เผย 6 เดือนแรกปีนี้ ยังเกินดุล 2.30% ของจีดีพี
สปป.ลาวแสดงความเห็นเรื่องฐานะการเงิน-การคลังของประเทศ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วนั้น ไม่มีผลกระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจ สปป.ลาว และที่ผ่านมา ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังแห่งสปป.ลาว ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน สปป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็ก อาจได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูตัวเลขทางเศรษฐกิจของสปป.ลาวในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่า สปป.ลาวมีศักยภาพในการเติบโต และพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลจาก สปป.ลาว อาทิเช่น
สปป.ลาว มีการบริหารจัดการงบประมาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อ GDP ในปี 2022 ขาดดุลลดลงมายืนอยู่ที่ระดับ -0.30% เนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของงบประมาณรายได้อย่างมาก พร้อมทั้งมีการควบคุมงบประมาณรายจ่ายอย่างรัดกุม จนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 สปป.ลาวสามารถเป็นประเทศที่เกินดุลงบประมาณ (Fiscal Surplus) โดยมีสัดส่วนการเกินดุลงบประมาณต่อ GDP อยู่ที่ระดับ 2.30%
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (FX Reserve) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 1,781.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก.ย.2566 และรัฐบาลยังคงมีแผนที่จะเพิ่มและรักษาระดับของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด
ตั้งแต่ปี 2563 สปป.ลาว ยังคงรักษาการเกินดุลทางการค้าได้อย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีการเกินดุลทางการค้าอยู่ที่ 943 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการต่างๆ เช่น โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน โครงการทางด่วนเวียงจันทน์-บ่อเต็น เขตโลจิสติกส์นครหลวงเวียงจันทน์ ฯลฯ เริ่มทยอยแล้วเสร็จและอยู่ในช่วงดำเนินการและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลประโยชน์ทางด้านการส่งออก
สำหรับโครงการสายส่ง (EDL-Transmission) ได้มีมติผ่านที่ประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนการการพัฒนาในขอบเขตของโครงการ
นอกจากนี้ ทางสปป.ลาว มีแหล่งรายรับหลายแหล่งที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรแหล่งเงินทุนต่างๆให้มีความสอดคล้องและเพียงพอในการชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศในแต่ละปี โดยมีการวางแผนการชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศ โดยใช้แหล่งเงินทุนจากสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้สถานการณ์ค่าเงินกีบที่อ่อนค่า ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการชำระหนี้สินในสกุลเงินต่างประเทศและการชำระคืนพันธบัตร
ล่าสุด กระทรวงการคลัง สปป.ลาว ได้ชำระคืนพันธบัตรสกุลเงินบาทตรงตามกำหนดในวันที่ 18 และ 29 พ.ย. 2566 มูลค่ารวม 3,610.30 ล้านบาท ได้อย่างครบถ้วนตามเงื่อนไข และไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระตลอดระยะเวลาในการออกพันธบัตรในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี โดยที่ผ่านมาได้มีการชำระคืนพันธบัตรแล้วเป็นมูลค่ารวม 31,452.60 ล้านบาท