ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 16-17 พ.ย.2566
จาก “คู่แค้น” สู่ “คู่จิ้น”
เรื่องที่ 3,259 รายการ “สะแตกแดกตับ” นำโดยอี๊ด โปงลางสะออน บุก ร้านอาหารอีสานเปิดใหม่ของอดีต สส.สิระ เจนจาคะ โดยมี เต้ มงคลกิตติ์ รับหน้าที่ตำส้มตำ ซึ่งทั้งคู่ได้โชว์ป้อนส้มตำ ให้แก่กันและกันด้วย
อดีต สส.สิระ บอกว่า ได้แรงบันดาลใจในการเปิดร้านอาหารมาจาก “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำเสื้อแดงที่เปิดร้านอาหารใต้ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประจวบเหมาะกับ “สิระ”โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงใช้โอกาสนี้เปิดร้านอาหารอีสาน ซึ่งเป็นแนวอาหารที่ตนเองชื่นชอบ
หากจำกันได้ เมื่อครั้งที่ทั้งคู่ยังเป็น สส. ทั้ง “สิระ” และ “เต้” ซึ่งยืนอยู่คนละฝั่ง ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน เคยปะทะคารมกันขั้นรุนแรง จนถึงขั้น “ท้าชก” กันเลยทีเดียว
แต่เมื่อ “เต้ มงมลกิตติ์” ได้มาเจอกับ “สิระ” ทั้งคู่ได้เล่าถึงความบาดหมางในอดีตว่า ไม่ใช่การแสดงหรือเป็นบทบาททางการเมือง แต่เกิดขึ้นจริงในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ความบาดหมางก็คลี่คลายลง กลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด
นี่จึงเรียกว่า จาก “คู่แค้น” สู่ “คู่จิ้น”
เรื่องที่ 3,260 มาแรงแซงทางโค้งเลยก็ว่าได้สำหรับบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ที่ล่าสุดประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ บริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 12.95 เมกะวัตต์
จากการเข้าซื้อดังกล่าวนี้หมายความว่าบีซีพีจีจะได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปทั้งหมด 4 โครงการ ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสงขลา
ได้รับอัตราค่าขายไฟฟ้าในแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 4.12 บาท/หน่วย โดยถือว่าเป็นราคาที่ดีเลย เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบัน ใครเล็งหุ้นตัวนี้อยู่ถือว่าน่าสนใจไม่เบาเลยนะครับผม
งานนี้สงสัยแค่ไม่ใช่การพูดเล่นเสียแล้วสำหรับพี่ปุ้ย “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่กลัวอย่างมากว่าจะกลายเป็น รมว.ที่ถูกลืม เห็นจากการออกเพรสข่าวของพี่ปุ้ย
ที่ต้องแบบนี้เพราะว่ามาถี่มาก ก่อนหน้านี้วันละ 2 ข่าวก็ทำมาแล้ว ล่าสุดก็มาต่อเนื่องแบบทุกวัน คืบหน้าจากข่าวเดิมนิดหน่อยก็นำมาเสนอ แต่ก็ดีไปอีกแบบเพราะสื่อมวลชน และประชาชนก็ได้ทราบความคืบหน้ากันไปด้วยแบบเรียลไทม์เลยขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 3,261 “พี่ตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ช่วงอารมณ์เสีย เพราะราคาน้ำมันปรับขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ ถือว่าเป็นระบบไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่หุ้น หุ้นขึ้นลงทุกวินาทีทุกวัน ราคาพลังงานโลกก็แบบเดียวกัน ขึ้นๆ ลงๆ ตามสถานการณ์ แต่ถ้าให้ประชาชนมารับภาระวิ่งขึ้นวิ่งลงทุกวันแบบนี้ ผมว่าไม่ถูกต้อง มันควรมีการวางระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันที่ขายให้กับประชาชน
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นลงในแต่ละวันให้เป็นเรื่องระหว่างรัฐกับผู้ประกอบว่ากันไป เพื่อทำให้ประชาชนไม่ต้องมาแบกรับแบบนี้ ซึ่งตนกำลังคิดระบบอยู่ สิ่งสำคัญต้องมีการศึกษาโครงสร้างราคาพลังงานใหม่ เพราะโครงสร้างเดิมใช้งาน 20-30 ปีแล้ว และถึงเวลาต้องปรับปรุงแล้ว และจะพยายามทำให้เร็วที่สุด การที่จะมาอ้างเรื่องการค้าเสรีแต่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ตนมองว่าไม่ถูกต้อง
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 3,262 คณะกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติแห่งชาติของเวียดนามระบุในวันนี้ (16 พ.ย.) ว่า ฝนตกหนักและน้ำท่วมเป็นเวลานานในภาคกลางของเวียดนามนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและสูญหายอีก 3 ราย
หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรส (VnExpress) รายงานว่า พื้นที่หลายแห่งในเมืองเว้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 800 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้ทั้งเมืองเผชิญน้ำท่วมในคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย.)
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนามระบุว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติในเวียดนามทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 136 รายและบาดเจ็บอีก 130 รายในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้
เรื่องที่ 3,263 ข้อมูลระบุว่า รัฐบาลอินเดียปรับลดภาษีลาภลอยน้ำมันดิบลงสู่ระดับ 6,300 รูปี (75.70 ดอลลาร์) ต่อตัน จากเดิม 9,800 รูปีต่อตัน และปรับลดภาษีลาภลอยน้ำมันดีเซลลงสู่ระดับ 1 รูปีต่อลิตร จากเดิมที่ 2 รูปีต่อลิตร
ทั้งนี้ ภาษีลาภลอยของน้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงเครื่องบิน (ATF) ยังคงอยู่ที่ 0 รูปีไม่เปลี่ยนแปลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อินเดียเริ่มเรียกเก็บภาษีลาภลอยกับบรรดาผู้ผลิตน้ำมันดิบในเดือนก.ค.2565 และเก็บภาษีลาภลอยกับการส่งออกน้ำมันเบนซิน, ดีเซล และเชื้อเพลิงเครื่องบิน เนื่องจากบรรดาโรงกลั่นเอกชนต้องการที่จะจำหน่ายเชื้อเพลิงในตลาดต่างประเทศเพื่อทำเงินจากอัตรากำไรการกลั่นที่แข็งแกร่ง แทนที่จะจำหน่ายในประเทศ
เรื่องที่ 3,264 กลุ่มพลเรือนยูเครนยืนยันว่า มีทหารเสียชีวิตเกือบ 25,000 ราย นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565 โดยอ้างอิงจากข้อมูลสาธารณะ และได้ประเมินว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 30,000 ราย
รัฐบาลยูเครน ไม่ได้เปิดเผยจำนวนทหารที่เสียชีวิตโดยถือเป็นความลับของประเทศ และระบุว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามในการทำสงคราม อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนส.ค.หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า ยอดเสียชีวิตของทหารยูเครนอาจสูงถึงเกือบ 70,000 ราย
นายยาโรสลาฟ ทินเชนโกซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ และนายเฮอร์มาน ชาโปวาเลนโกซึ่งเป็นอาสาสมัครระบุในบทความของวารสารทิชเดนของยูเครนว่า โครงการหนังสือแห่งความทรงจำของนายชาโปวาเลนโกได้ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตทั้งจากการสู้รบและไม่ใช่การสู้รบอยู่ที่ 24,500 ราย โดยอ้างอิงจากข้อมูลสาธารณะ
บุคคลทั้งสองดังกล่าวระบุเสริมว่า ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ โดยทหารจำนวนมากถึง 15,000 นายที่ถูกระบุว่าสูญหายนั้น ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะเสียชีวิตแล้ว
เรื่องที่ 3,265 การศึกษาล่าสุดของศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Center) พบว่า เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ติ๊กต๊อก (Tiktok) ที่เข้าดูข่าวสารผ่านแอปเป็นประจำเพิ่มขึ้น 43% ในปี 2566 จาก 22% ในปี 2565 และพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ในสหรัฐได้รับข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรดาสำนักข่าวกำลังแข่งขันกับติ๊กต๊อกและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภครวมถึงงบประมาณของผู้โฆษณา โดยหลายแห่งกำลังสำรวจกลยุทธ์เพื่อดึงดูดกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นผู้ใช้กลุ่มใหญ่ของติ๊กต๊อก
ผลการวิเคราะห์การบริโภคข่าวของชาวอเมริกันโดยศูนย์วิจัยพิว ซึ่งได้มาจากการสำรวจผู้ใหญ่ในสหรัฐจำนวน 8,842 คนในช่วงระหว่างวันที่ 25 ก.ย. ถึง 1 ต.ค. 2566 พบว่า 67% ของผู้ตอบแบบสำรวจใช้เว็บไซต์หรือแอปข่าว เฟซบุ๊ก (Facebook) ของบริษัทเมตาเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้านข่าวสาร โดย 30% ของชาวอเมริกันกล่าวว่า พวกเขาเข้าดูข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำ ตามมาด้วยยูทูบ (YouTube) 26%, อินสตาแกรม (Instagram) 16% และติ๊กต๊อก 14%
เรื่องที่ 3,266 ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 6.50% ในการประชุมวันนี้ (16 พ.ย.) เพื่อรอให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ผ่าน ๆ มาส่งผลต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ ท่ามกลางความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เริ่มลดน้อยลงและเงินเปโซที่แข็งค่าขึ้น แต่ยังคงเปิดโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม หากมีความจำเป็น
การตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ โดยนักเศรษฐศาสตร์ 17 จาก 22 คนในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า BSP จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ หลังจากจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในวันที่ 26 ต.ค. ส่วนนักเศรษฐศาสตร์อีก 5 คนคาดการณ์ว่า BSP จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%
โดยนพวัชร์