อินโดฯ ออกกฎหมายด่วนให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯ
ควรต้องมีการปฏิรูปภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์เพิ่อดึงดูดการลงทุน อ้างอิงจากถ้อยแถลงของรัฐมนตรี
อินโดนีเซียมีแผนที่จะออกกฎหมายฉุกเฉิน (หรือที่เรียกว่า เพิร์ปปุ) เพื่อเป็นการผ่าทางตันที่มีมานานนับทศวรรษ จากกฎหมายหลักของประเทศที่ไม่เป็นมิตร เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าที่จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออพาร์ทเมนท์ได้ในอินโดนีเซีย
โดยหลายรัฐบาลที่ผ่านมาต่างพยายามแก้ไขกฎหมายที่จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์ในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียนได้
นายลูฮัต ปันจาริตัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านการเมือง กฎหมายและความมั่นคงกล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้สำเร็จเพราะข้อบัญญัติภายใต้กฎหมายกสิกรรมปี 2503 ที่ว่า ชาวต่างชาติไม่สามารถเป็นเจ้าของครอบครองบ้านได้ในอินโดฯ
“แต่ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว ต้องมีการปฏิรูปภาคอสังหาฯ เพื่อดึงดุดการลงทุนจากต่างชาติ ควรจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออพาร์ทเมนท์ได้ แต่ไม่ใช่บ้านที่มีพื้นที่ ถึงแม้พวกเขาจะไม่่มีใบอนุญาตอยู่อาศัยในประเทศนี้ก็ตาม เหมือนกับในสิงคโปร์” นายลูฮัตให้สัมภาษณ์สำนักข่าวสเตรทไทม์
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียให้อำนาจประธานาธิบดีในการออกกฎหมายฉุกเฉินได้ หากเขาพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประเทศต้องการ
โดยกฎหมายด่วนฉุกเฉิน (หรือเพิร์ปปุ) จะมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากประธานาธิบดีลงนามและทางรัฐสภามีสิทธิ์คงกฎหมายนี้ไว้ หรือระงับได้ภายในหนึ่งปี หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้
นายลูฮัตให้ข้อมูลว่า เพิร์ปปุที่ครอบคลุมกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติซื้ออพาร์ทเมนท์ได้นั้น เป็น 1 ใน 4 หรือ 5 กฎหมายที่อินโดฯ มีแผนจะดำเนินการภายในเดือนส.ค.นี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาและขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางแผนการปฏิรูปของรัฐบาล
“นี่เป็นขั้นตอนหนึ่งของการปฏิรูปที่จะเข้าถึงปัญหาทั้งหมด” เขากล่าว
ทั้งนี้ ในเดือนพ.ค. ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดได้ลงนามในเพิร์ปปุที่เพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ก่ออาชญากรรมทางเพศด้วยการตอนด้วยยา (ฉีดยาให้อัณฑะฝ่อ) และโทษประหารชีวิต หลังจากสื่อรายงานถึงคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่เพิ่มจำนวนขึ้นมาก ที่ผ่านมาโทษสูงสุดสำหรับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กในอินโดฯ คือจำคุก 15 ปีเท่านั้น
การแก้ไขกฎหมายที่มีอยู่เดิมผ่านกระบวนการปกติคือการเสนอร่างกฎหมายผ่านสภาจะต้องใช้เวลายาวนานหลายปี และในบางกรณีร่างกฎหมายบางฉบับก็ถูกโยนทิ้ง
แผนการปฏิรูปของรัฐบาลในอินโดนีเซียในหลายทศวรรษที่ผ่านมาต้องเผชิญกับอุปสรรคจากกฎหมายดั้งเดิมที่ขัดแย้งและสมควรได้รับการแก้ไข.