ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 20-21ส.ค. 2566
วันที่ 22 สิงหาคม ทักษิณ ชินวัตร
เรื่องที่ 2,715 วันที่ 22 สิงหาคม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย ในเวลา 09.00 น. ลงสนามบินดอนเมือง
นั่นคือการแจ้งกำหนดการจากลูกสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยถือเป็นการประกาศว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศไทยครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ แพทองธาร ได้ประกาศว่า ทักษิณ จะเดินทางกลับในวันที่ 10 สิงหาคม แต่ก็เลื่อนออกไป โดย ทักษิณ อ้างต้องพบแพทย์
วันที่ 22 สิงหาคม ตรงกับกับการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทย จะเสนอเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันดังกล่าว
วันนี้(20 ส.ค.66) แพทองธาร ชินวัตร โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพตนเอง และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี รวมทั้งน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวของนายทักษิณ และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี ทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) ระบุว่า “พรุ่งนี้ครบ 37 ปี เลยถือโอกาสมาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร สักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และสักการะพระบรมรูป สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาท พระเทพบิดร และขอพรพระให้การกลับบ้านของคุณพ่อ ราบรื่น เรียบร้อย และปลอดภัยค่ะ”
เรื่องที่ 2,716 กำลังจะหมดวาระการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงแล้ว สำหรับพี่สิงห์ “บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร” ผู้ว่าฯ กฟผ.คนปัจจุบัน ซึ่งจะะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ฟรือวันพรุ่งนี้
พี่สิงห์อำลาสื่อมวลชนเรียบร้อยแล้วในบรรยากาศแบบสบายๆภายใต้อาณาเขตธรรมชาติของ กฟผ. คนที่สบายใจหลังจากนี้แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นพี่สิงห์ ที่จะมีโอกาสได้พักผ่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกทาบทามให้ไปนั่งทำงานที่ไหนอีกหรือไม่
ส่วนหน้าที่ลุ้นระทึกต่อไปก็คงจะตกเป็นของ “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” ตัวเต็งที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งผู้ว่า กฟผ. คนใหม่ ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบจากการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว แต่ดูเหมือนว่าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. จะยังไม่ได้อนุมัติ
ประเด็นที่สำคัญในการใส่เกียร์ว่างของ ครม. ก็ไม่มีอะไรมากมายที่เหนือความคาดหมาย นั่นก็คือรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาจัดการ แต่ ณ เวลานี้แม้แต่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยก็ยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ ครม. ก็คงต้องรอไปก่อน ยังไงก็เอาใจช่วย “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” นะขอรับ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่มาตามความสามารถไม่ใช่เด็กเส้นใหญ่ที่มาตามใบสั่งขอรับ
เรื่องที่ 2,717 รู้ยัง ใครเป็น รมว.คลัง!! “บิ๊กตู่ แห่งกระทรวงการคลัง” ใช่เลย “ปลัดพี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ช่วงนี้ เนื้อหอม ถึงหอมมาก!! แม้ใกล้เกษียณแล้ว อีกเพียงเดือนเศษ ภาพหนึ่งคือ หายตัวลึกลับ หลบนักข่าวเร็วยิ่งกว่า “นินจา” จะเดินไปไหนก็เหมือน “จอมยุทธเหยียบหิมะไร้ร่องรอย” เพราะว่าที่นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ก็โทรหา!! ทุกๆ วัน ย้ำ “ทุกๆๆๆๆ วัน”
ตกเย็น “ลุงป้อม” จากพรรคไหนไม่ทราบ แต่คนทั่วไปเรียก “แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน” ยังโทรหาอีก ทำแบบนี้ ติดต่อกันวันละหลายรอบ สงสัยคนชื่อ อ.อ่าง ก่อนหน้านี้ ที่จากเอสซีบีเอ็กซ์ จะมาเป็นรมว.คลัง และ ป.ประสงค์ (พี่สง) อดีตปลัดคลัง คงไม่ใช่แล้ว!!
ปลัดคลังนะ!! จะบอกให้ไม่ใช่แค่เก่งเท่านั้น แต่ต้องประสานสิบทิศ ไม่ใช่-ชนะสิบทิศ รอบนี้ อาจจะเห็นลายเซ็น “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” บน ธนบัตร ก็ได้นะจ๊ะ!! (อ่านแล้วไม่ต้องตกใจ)
เพราะตำแหน่งต่อไปยังเชื่อมโยงถึงกัน “ปลัดคลัง” ถ้าพลาดจากน้อง LOVE พี่ตู่ที่ชื่อ “บัด” แล้วไม่ต้องตามอ่าน นพวัชร์ อีกต่อไป ครับ!!
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,718 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินและหลักทรัพย์ของประเทศจีน ได้ประชุมกับผู้บริหารธนาคารต่าง ๆ พร้อมขอให้ธนาคารเหล่านี้ปล่อยเงินกู้มากขึ้นเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่จากบริษัท ไชน่า ไลฟ์ อินชัวร์รันซ์ จำกัด และตลาดหลักทรัพย์จีนก็เข้าร่วมการประชุมเดียวกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) โดยทางการจีนได้หารือเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ร่วมกับภาคการเงินในการป้องกันและลดความเสี่ยงด้านหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น
ธนาคารกลางจีนแถลงว่า หน่วยงานกำกับดูแลและสถาบันการเงินจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น และต้องจับตาดูความเสี่ยงดังกล่าวอย่างใกล้ชิดแถลงการณ์ระบุว่า จีนต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเชิงระบบอย่างเด็ดขาด โดยธนาคารกลางย้ำว่าทางการจะปรับนโยบายสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม
อนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.15% สู่ระดับ 2.50% ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (reverse repurchase rate) ระยะ 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 1.8%
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางจีนยังสะท้อนให้เห็นว่า จีนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่คันทรี การ์เดน (Country Garden) บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนกำลังเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และยอดขายบ้านยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ความเสี่ยงยังลุกลามไปยังภาคการเงินอีกด้วย โดยบริษัทจงหรง อินเตอร์เนชั่นแนล ทรัสต์ (Zhongrong International Trust Co.) หนึ่งในธนาคารเงา (shadow bank) รายใหญ่ที่สุดของจีน
เรื่องที่ 2,719 ญี่ปุ่นจะเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำรายชั่วโมงสู่ระดับเฉลี่ย 1,004 เยน (6.91 ดอลลาร์ หรือราว 245.79 บาท) ซึ่งสูงกว่าระดับที่เสนอโดยคณะกรรมการที่ปรึกษาของรัฐบาล เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่ออำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภค
กระทรวงแรงงานญี่ปุ่นประกาศในวันศุกร์ (18 ส.ค.) ว่า จังหวัดต่าง ๆ ของญี่ปุ่นถูกกำหนดให้เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นโดยเฉลี่ย 43 เยนต่อชั่วโมงในปีงบประมาณปัจจุบัน นับเป็นการปรับขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การบันทึกการปรับขึ้นค่าจ้างเริ่มขึ้นในปี 2521 โดยการปรับขึ้นค่าแรงครั้งใหม่จะมีผลในเดือนต.ค.นี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาของรัฐบาลได้แนะนำให้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 41 เยน เป็น 1,002 เยนสำหรับปีงบประมาณนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กรุงโตเกียวซึ่งมีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดในประเทศ วางแผนขึ้นค่าแรง 41 เยนเป็น 1,113 เยน ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำใหม่ของจังหวัดคานางาวะ จะอยู่ที่ 1,112 เยนหลังจากเพิ่มขึ้น 41 เยน และโอกินาวะซึ่งมีค่าแรงขั้นต่ำซึ่งต่ำที่สุดในประเทศ มีแผนจะปรับขึ้น 43 เยน เป็น 896 เยน
เรื่องที่ 2,720. อู ออง จัน รองปลัดกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และการชลประทานของเมียนมา ระบุว่าเกิดโรคที่ยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งทำให้วัวควายล้มตายในรัฐคะฉิ่นทางตอนเหนือสุดของประเทศ
อู ออง จันกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) ว่า กระทรวงฯ ได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ (LBVD) เกี่ยวกับการล้มตายของวัวควายจำนวนหนึ่งที่เกิดจากโรคที่ยังไม่สามารถระบุได้ในหมู่บ้านบางแห่งของเมืองปูตาโอ โดยทีมตรวจสอบภาคสนามกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีปศุสัตว์มากกว่า 200 ตัวล้มตายด้วยโรคที่ยังไม่ทราบแน่ชัดในเมืองปูตาโอของรัฐคะฉิ่น
เรื่องที่ 2,721 สำนักข่าวเดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานเมื่อที่ 19 ส.ค.ว่า สหรัฐและจีนกำลังเร่งค้นคว้าวิจัยเพื่อบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ลงในด้านการทหารของตน อันเป็นการแข่งขันระดับโลกเพื่อชิงความได้เปรียบในด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยทั้งสองประเทศมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอาวุธที่สามารถค้นหาเป้าหมายได้เอง ตลอดจนเครื่องมือ AI สำหรับการระบุเป้าหมายโดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม
ในการทดสอบเมื่อเร็ว ๆ นี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกลาโหมแห่งชาติของจีนได้ทดลองใช้ฝูงโดรนที่สามารถเอาชนะสัญญาณรบกวนและทำลายเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ
ขณะเดียวกัน สหรัฐจัดซ้อมรบร่วมกับสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียในเดือนเม.ย. โดยใช้ฝูงโดรน AI เพื่อติดตามและจำลองการโจมตียานพาหนะภาคพื้นดิน เช่น รถถัง, ปืนอัตตาจร และยานเกราะ
และเมื่อต้นปีนี้ สำนักโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหม (DARPA) ในสหรัฐกำลังสำรวจโครงการ “รวมฝูง” (swarm-of-swarms) ซึ่งรวมฝูงโดรนที่ควบคุมด้วย AI ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางทะเลเข้าด้วยกัน
การทดลองเรื่องโดรน AI ทางทหารถูกนำมาใช้ทดสอบจริงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยยูเครนใช้โดรนเหล่านี้ในการโต้กลับรัสเซีย ส่วนกองทัพสหรัฐก็ถือโอกาสศึกษาประโยชน์ของเทคโนโลยีดังกล่าวในสนามรบ
แต่ความก้าวหน้าล่าสุดของ AI นำไปสู่ความกังวลว่าสหรัฐอาจล้าหลังจีนในเรื่อง AI ทางทหาร โดยในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการของสภาในเดือนก.ค. เกี่ยวกับ AI ในสนามรบที่จัดขึ้นโดยคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการนิติบัญญัติด้านนโยบายกลาโหมของสหรัฐ (HASC) นายไมค์ กัลลาเกอร์ ประธานอนุกรรมการฯ กล่าวว่า หากจีนชนะ “ในด้าน AI ของการแข่งขันครั้งนี้ ก็มีแนวโน้มว่าจีนจะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อทำเรื่องชั่วร้าย”
เรื่องที่ 2,722 ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ (NHC) รายงานว่า เฮอร์ริเคนฮิลารีอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนตัวไปทางชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก ในเย็นวันเสาร์ (19 ส.ค.) แต่ยังคงมีอันตรายจากฝนตกหนักในพื้นที่ และคาดว่าอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในเมืองโดยเฉพาะทางตอนเหนือของคาบสมุทรและทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ
NHC คาดการณ์ว่าฮิลารีจะสูญเสียกำลังมากขึ้นและกลายเป็นพายุโซนร้อนเมื่อมุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันอาทิตย์ (20 ส.ค.) และคาดว่าจะมีฝนตกประมาณ 3-6 นิ้วในพื้นที่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียและเนวาดาตอนใต้ โดยในบางพื้นที่อาจมีฝนตกมากถึง 10 นิ้ว
“คาดว่าอาจเกิดอันตรายจากน้ำท่วมระดับหายนะ” NHC กล่าว
เรื่องที่ 2,723 นายวิลเลียม ไล่ รองประธานาธิบดีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค. กับสถานีโทรทัศน์ของไต้หวันว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันในปีหน้าจะเป็นการเลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ และไม่ใช่เรื่องอะไรของจีนที่จะเข้ามาตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายไล่อยู่ที่นิวยอร์กเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่งออกอากาศเมื่อคืนนี้หลังจากที่กองทัพจีนเริ่มซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวัน เพื่อแสดงความไม่พอใจที่นายไล่เดินทางไปแวะเยือนสหรัฐ
“จีนจะโปรดปรานใครในวันนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าคนนั้นจะสามารถรับตำแหน่งได้เลย เรื่องนี้ขัดต่อจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยของไต้หวัน และแสดงถึงความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อระบอบประชาธิปไตยของไต้หวัน” นายไล่กล่าว
นายไล่พูดถึงปฏิกิริยาของจีนที่มีต่อการเดินทางต่างประเทศของผู้นำไต้หวันว่า จีนไม่ควร “เอะอะโวยวายในเรื่องไม่เป็นเรื่อง””จุดยืนของผมคือไต้หวันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน เรายินดีที่จะมีส่วนร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศและพูดคุยกับจีนภายใต้การรับประกันความปลอดภัย”
“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกระหว่างสันติภาพกับสงคราม เราไม่สามารถออเดอร์จากเมนูได้ว่า เลือกสันติภาพแล้วก็จะมีสันติภาพ เลือกสงครามแล้วก็จะมีสงคราม มันไม่ใช่แบบนั้น ประเด็นก็คือเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกเอาว่าเราต้องการประชาธิปไตยหรือเผด็จการ นี่คือทางเลือกที่แท้จริงที่เราต้องตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้” นายไล่ กล่าว
โดยนพวัชร์