“ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์” ดรีมคาร์ของสายซิ่งลงตัวทุกสไตล์
พร้อมสมรรถนะขับขี่ที่แรงเร้าใจและทรงตัวเหนือชั้นในทุกโมเมนต์
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความท้าทายของที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต “ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์” รถในฝันของผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ผ่านแฟชั่นเซ็ตที่สะท้อนความลงตัวในทุกสไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างคุณหลวง-พสุ ลิปตพัลลภ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ที่หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าลุคไหนก็เท่โดนใจเข้ากันได้กับ “ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์”
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตที่โดนใจสายเรซซิ่ง หลายคนอาจเข้าใจว่าจะต้องเหมาะกับขับในสนามแข่งเท่านั้น แต่ไม่ใช่กับ “ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์” ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ตที่ตอบโจทย์และสะท้อนตัวตนได้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ทั้งลุคนักแข่ง (Racing Look) ที่สะท้อนดีเอ็นเอความสปอร์ตโดดเด่นในสไตล์เฉพาะตัว ลุคหนุ่ม
วัยทำงาน (Smart Casual Look) ที่เสริมความเท่และความสมาร์ทไปอีกขั้น รวมถึงลุคเรียบง่ายสบาย ๆ (Casual Look) ที่ช่วยเติมสีสันให้การใช้ชีวิตในทุกวัน เรียกว่า “ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์” ทั้งขับสนุก-สมรรถนะการขับขี่ เหนือชั้น-เร่งแรงเร้าใจ-ทรงตัวดีเยี่ยม ในทุกโมเมนต์ของชีวิต
ดีไซน์ภายนอกออกแบบสะท้อนความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวตามสไตล์ซีวิคและหลักอากาศพลศาสตร์ เสริมความโดดเด่นสะดุดตาด้วยสปอยเลอร์สี Gloss Black รอบคัน ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกหลัง ไฟท้ายแบบ LED ชุดท่อไอเสียแบบ Center Triple พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอย 19 นิ้ว ดีไซน์ภายในถูกออกแบบอย่างเหนือระดับ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจด้วย DNA ความสปอร์ต ห้องโดยสารกว้างขวางมาพร้อมสีภายในสีแดงและดำ เบาะนั่งคู่หน้าสปอร์ตแบบ Type R พวงมาลัยหุ้มหนังกลับแบบ Type R คอนโซลกลางและหัวเกียร์ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม มาพร้อม Serial Number Plate หมายเลขลำดับรถสุดเอกซ์คลูซีฟที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนป้าย Type R
ข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์
ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ มาพร้อมดีไซน์ความสปอร์ตที่โดนเด่นสะดุดตา ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงการขับขี่ ที่ดีเยี่ยม ทั้งในด้านความเร็วและการทรงตัว ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมตอกย้ำความสปอร์ตด้วยภายในสีแดง/ดำ ที่มีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ได้รับการพัฒนามาสำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ โดยเฉพาะ มอบกำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สัมผัสความรู้สึกของอัตราเร่งได้ทันที และให้อัตราเร่งต่อเนื่องไปจนถึงช่วงความเร็วรอบสูง มั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ ครบครัน อาทิ ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) และถุงลมหัวเข่าคู่หน้า (Dual Knee Airbags) เป็นต้น มอบความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบาย อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card ระบบเชื่อมต่อ Honda LogR และระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เป็นต้น
ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ราคา 3,990,000 บาท สีภายนอกมีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ พร้อมสีใหม่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก)
ข้อมูลโดยย่อของคุณหลวง-พสุ ลิปตพัลลภ
คุณหลวง-พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ได้ร่วมลงแข่งในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Honda City Hatchback One Make Race 2022 ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยคุณหลวงแข่งภายใต้ทีม Pound Honda Racing ผลการแข่งขันสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในเรซ 4 และได้คะแนนสะสมประจำปีอันดับ 3 คลาสโอเวอร์ออลล์ เอ-บี ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้นทั้งหมด 4 สนาม รวมทั้งสิ้น 8 เรซ เริ่มที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) จากนั้นย้ายไปสนาม 2-3 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และปิดท้ายการแข่งขันที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา
สำหรับ Honda One Make Race 2023 ในคลาส City Hatchback One Make Race จะมีการแข่งขันทั้งหมด 4 สนาม เริ่มที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา จากนั้นสนาม 2 จะยังคงแข่งขันบนแทร็กเดียวกัน ก่อนจะย้ายไปยังสนาม 3 ที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) ในวันที่ 18-20 สิงหาคม 2566 และส่งท้ายฤดูกาลที่สนามสงขลา สตรีท เซอร์กิต จ.สงขลา ในวันที่ 18-22 ตุลาคม 2566 และในปีนี้ มีการเปิดตัวคลาสใหม่ Civic One Make Race เป็นครั้งแรกอีกด้วย