อินโดหนุนสรรพากรเก็บภาษีตามเป้า
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซียได้ให้กำลังใจและสนับสนุนเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรให้ทำงานสำเร็จลุล่วงท่ามกลางความท้าทายในการจัดเก็บภาษีให้เป็นไปตามเป้าที่สูงลิ่วของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ประธานาธิบดีโจโควี่ ได้มาเยือนกรมสรรพากรและพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ นับเป็นการเยือนกรมสรรพากรเป็นครั้งที่ 3 หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือน ต.ค.57 โดยเขาได้กล่าวในการแถลงข่าวหลังประชุมเสร็จสิ้นว่า “ก่อนหน้านี้ ผมเคยมาที่นี่ 2 ครั้งแล้ว หมายความว่าผมสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรอย่างเต็มที่”
ปี 2559 เป็นปีที่มีการบังคับใช้กฎหมายภาษีอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการจัดการกับบรรดาเศรษฐีที่หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีมาตลอด พวกเขาเหล่านี้ล้วนมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับนักการเมืองหรือเป็นญาติที่ใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญในประเทศ
ประธานาธิบดีโจโควี่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า“ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ถ้ามีใครไม่ยอมจ่ายภาษี เราก็จะต้องทำให้จ่ายให้ได้” โดยเขาได้เน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่สรรพากรจะได้รับการสนับสนุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลซึ่งจะเป็นงบประมาณที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีสูงถึง 1.36 พันล้านล้านรูเปียห์ เพิ่มขึ้นถึง 28.2% จากที่เคยเก็บได้ในปี 2558 นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกและในอินโดนีเซียเอง อย่างไรก็ตามนายโจโควี่เผยว่าอาจมีการปรับลดเป้าการจัดเก็บภาษีได้ โดยกล่าวว่าฝ่ายบริหารไม่อยากจะมองในแง่ดีมากเกินไป “เราต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง อย่าโลกสวยเกินไป”
นายอาเด โคมารูดิน โฆษกประจำสภาผู้แทนราษฎร ให้ข้อมูลกับสื่อว่า คาดการณ์ว่าอาจมีการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลลงในเดือน มิ.ย.ถึงเดือน ก.ค.ก่อนที่จะมีการผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางภาษี โดยกฎหมายนี้จะนำไปสู่การคืนเงินกลับอินโดนีเซียจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยชาวอินโดนีเซียที่อยู่ต่างประเทศ และจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐในปี 2558 กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีบุคคลได้ถึง 9 ล้านล้านรูเปียห์ เพิ่มสูงเป็น 2 เท่าจากที่เคยจัดเก็บได้ในปี 2557 โดยกรมสรรพากรหวังว่าตัวเลขภาษีบุคคลจะเพิ่มเป็น 2 เท่าอีกครั้งในปีนี้
นายอัคมาด อัคบาร์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำศูนย์ปฏิรูปเศรษฐศาสตร์ ให้ความเห็นว่า ถึงแม้แนวโน้มของการจัดเก็บภาษีที่ตั้งเป้าไว้จะดูยากลำบาก แต่รัฐบาลก็ควรคงงบประมาณให้สมดุลด้วยการเตรียมปรับลดงบประมาณลงแทนที่จะพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมทางภาษีให้บังคับใช้ได้เร็วขึ้น
หมายเหตุ 1,000 รูเปียห์ = 2.03 บาท
วันที่ 30 มี.ค. 2559