ทีเอ็มบีธนชาต ลุ้นโชคใหญ่ เคลียร์หนี้-คุ้มครองนาน Season 2
‘ทีเอ็มบีธนชาต’ ตั้งใจมอบความคุ้มค่าให้ลูกค้าที่รับบัญชีเงินเดือนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ทั่วถึงยิ่งกว่าเดิม
กรุงเทพฯ 18 เมษายน 2566 – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ปล่อยหมัดเด็ดอีกครั้ง !! หลังได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด กับแคมเปญ ‘ลุ้นโชคใหญ่ เคลียร์หนี้ให้ คุ้มครองนาน’ Season 2 กับบัญชีเงินเดือนทีทีบี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและตอกย้ำความคุ้มค่าที่ได้มากกว่าบัญชีเงินเดือนทั่วไป และสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานบัญชีเงินเดือนทีทีบีมากขึ้น โดยในปี 2566 ธนาคารได้จัดใหญ่เพิ่มจำนวนรางวัลมากกว่าเดิมในการร่วมลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 12.5 ล้านบาท ยิ่งใช้ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – วันที่ 31 สิงหาคม 2566
นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารความสัมพันธ์และประสบการณ์ลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารได้ศึกษาพฤติกรรมและพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีฐานเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และมีภาระทางการเงินมากไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นธนาคารได้สร้างสรรค์แคมเปญ ‘ลุ้นโชคใหญ่ เคลียร์หนี้ให้ คุ้มครองนาน’ กับบัญชีเงินเดือนทีทีบี ซึ่งหลังจากจบแคมเปญไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาด พบว่ามีผู้ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแคมเปญสูงถึง 1,329,291 คน โดยมีปริมาณการทำธุรกรรมของผู้ใช้บัญชีเงินเดือนทีทีบีเพิ่มขึ้นถึง 25% มีปริมาณเม็ดเงินหมุนเวียนจากการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 20% อีกทั้งมีกระแสเรียกร้องให้ธนาคารจัดแคมเปญนี้ขึ้นอีกครั้ง เพราะเป็นแคมเปญที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของทุกคนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะการเคลียร์หนี้ให้ที่ช่วยลดภาระได้จริง หรือ การมอบความคุ้มครองชีวิต ธนาคารจึงได้จัดแคมเปญดังกล่าวนี้ ใน Season 2 โดยมีการเพิ่มจำนวนรางวัลและเพิ่มระยะเวลาแคมเปญให้นานขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าที่จะได้รับรางวัลให้มากกว่าเดิมอีกด้วย และมั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานเงินเดือนที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้ และอนาคต
สำหรับในปี 2566 ทีเอ็มบีธนชาตยังตอกย้ำการเสนอโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง เพื่อต้องการช่วยให้ลูกค้าเคลียร์หนี้ หรือ เพิ่มความคุ้มครอง ที่ยังคงให้อิสระกับผู้โชคดีในการเลือกรับรางวัลให้ได้รับประโยชน์และความคุ้มค่ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรางวัลการเคลียร์หนี้สูงสุด 100,000 บาท หรือ รับกรมธรรม์ประกันชีวิต ทุนประกันสูงสุด 1,000,000 บาท และใน Season 2 ยังได้เพิ่มรางวัลบัตรของขวัญมูลค่ารางวัลละ 1,000 บาท รวมรางวัลที่แจกในรอบนี้ ทั้งสิ้น 5,525 รางวัล มูลค่ารางวัลรวมสูงสุดกว่า 12.5 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 5 เดือนของแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – วันที่ 31 สิงหาคม 2566
รางวัลที่ 1 เคลียร์หนี้มูลค่า 100,000 บาท หรือ กรมธรรม์ประกันชีวิต ทุนประกัน 1,000,000 บาท (ระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี) จำนวน 5 รางวัลต่อเดือน
รางวัลที่ 2 เคลียร์หนี้มูลค่า 10,000 บาท หรือ กรมธรรม์ประกันชีวิต ทุนประกัน 200,000 บาท (ระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี) จำนวน 100 รางวัลต่อเดือน
รางวัลที่ 3 บัตรของขวัญ Lotus (e-coupon) มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 1,000 รางวัลต่อเดือน
ทั้งนี้ ลูกค้าบัญชีเงินเดือนทีทีบี สามารถรับสิทธิ์ร่วมแคมเปญได้ง่าย ๆ ไม่ต้องลงทะเบียน เพียงทำธุรกรรมจ่ายบิลผ่านแอปทีทีบี ทัช หรือ Scan QR จ่ายเงินที่หน้าร้านค้าผ่านแอปทีทีบี ทัช หรือ ใช้จ่ายด้วยบัตรเดบิตทีทีบี ออลล์ฟรี ที่ผูกกับบัญชีเงินเดือนทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ไม่มียอดขั้นต่ำ ทุกธุรกรรมจะได้รับสิทธิ์ 1 สิทธิ์ทันที หากใช้ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ในแต่ละเดือน รับสิทธิ์ x2 ยิ่งใช้มาก ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมาก โดยจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร รวมทั้งมีการแจ้งผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลผ่านแอปทีทีบี ทัช และ SMS อีกด้วย
“จากความสำเร็จของแคมเปญที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เพราะช่วยให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้นได้จริงและเพื่อเป็นการขอบคุณและมอบสิ่งดี ๆ ให้ลูกค้าคนสำคัญโดยเฉพาะพนักงานที่มีบัญชีเงินเดือนทีทีบีได้ยิ้มสนุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมได้รับสิทธิ์ประโยชน์ในการร่วมลุ้นรับรางวัลที่เป็นสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ทีเอ็มบีธนชาตจึงได้จัดแคมเปญ ‘ลุ้นโชคใหญ่ เคลียร์หนี้ให้ คุ้มครองนาน’ Season 2 เพราะมั่นใจว่าแคมเปญนี้ให้ความคุ้มค่าที่ได้มากกว่าบัญชีเงินเดือนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกค้าในการช่วยแบ่งเบาภาระหนี้และค่าใช้จ่าย หรือ เพิ่มความคุ้มครองชีวิต และในปีนี้ธนาคารยังมีแผนส่งมอบแคมเปญดี ๆ ที่จะออกมาตอบโจทย์ลูกค้าทีเอ็มบีธนชาตทุกคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน” นางสาวนันทพรกล่าวสรุป