หัวเว่ยชี้ไม่ต่อต้านแอปเปิล
เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเว่ย กล่าวปกป้องแอปเปิลซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งสำคัญ
เมื่อถูกถามในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กเกี่ยวกับการเรียกร้องของจีนให้บอยคอตบริษัทคู่แข่งจากสหรัฐฯ อย่างแอปเปิล เหรินระบุว่า เขาขอคัดค้านการกระทำเพื่อตอบโต้ใดๆจากจีน เนื่องจากขณะนี้มีความตึงเครียดกับสหรัฐฯมากพอแล้ว
“ จะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และครั้งที่ 2 ผมจะเป็นคนแรกเลยที่ประท้วงเรื่องนี้” เหรินกล่าวตอบสื่อบลูมเบิร์ก “แอปเปิลเป็นบริษัทชั้นนำของโลก หากไม่มีแอปเปิล ก็จะไม่มีโมไบล์อินเทอร์เน็ต” เหรินระบุ “ แอปเปิลเป็นครูของผม เป็นความล้ำสมัยสำหรับผม ในฐานะนักเรียน ผมจะต่อต้านครูของผมทำไม ? “ เขาเสริม
โดยเขาตอบคำถามนี้ในช่วงเวลาที่บริษัทหัวเว่ยอยู่ในสถานการณ์วิกฤต กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยเมื่อต้นเดือนพ.ค.นี้ ส่งผลทำให้หัวเว่ยไม่สามารถทำธุรกิจกับบริษัทอเมริกันได้
คำสั่งห้ามนี้ส่งผลทำให้ในเวลาต่อมา ซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิล และ ARM Holdings ประกาศตัดความสัมพันธ์กับหัวเว่ย แต่หลังจากนั้นไม่นาน กูเกิลก็กลับลำโดยระบุว่า จะทำงานกับหัวเว่ยต่อไปอีก 90 วัน ขณะที่ผู้ให้บริการชั้นนำในสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่นก็ประกาศเลื่อนการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของหัวเว่ยออกไปก่อน
หัวเว่ยและแอปเปิลมีความแตกต่างกันอย่างมากในตลาดจีน ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของหัวเว่ย โดยหัวเว่ยจัดส่งสมาร์ทโฟนเกือบ 30 ล้านเครื่องในไตรมาสแรกของปีนี้ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากข้มูลของบริษัทวิจัย Canalys
ขณะเดียวกัน ยอดขายไอโฟนของแอปเปิลในจีนลดดิ่งลงถึง 30% ในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ตลาดจีนยังคงเป็นตลาดสำคัญของแอปเปิล โดยเมื่อรวมจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันและฮ่องกง จะมีสัดส่วนคิดเป็นเกือบ 18% ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ในระหว่างการรายงานรายได้เมื่อเดือนเม.ย. ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลระบุว่ายอดขายไอโฟนในจีนอาจได้แรงหนุนจาก “ การพูดคุยทางการค้าที่ดีขึ้น” ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน และ “มีการตอบรับในเชิงบวกกับราคาของเราในตลาด”
แต่หลังจากนั้น การเจรจาการค้ารอบล่าสุดของทั้งสองประเทศก็ล้มเหลว และมีการขึ้นภาษีโต้ตอบกันกับสินค้าอเมริกันและจีน
กรณีพิพาทในการเจรจาการค้าครั้งล่าสุดอาจส่งผลร้ายกับแอปเปิล จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ Fitch Ratings “ แอปเปิลอาจเป็นเหยื่ออีกรายจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นในตลาดจีน”
เมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่าหัวเว่ย “อันตรายมาก” แต่หลังจากนั้น เขาก็กล่าวว่า กรณีหัวเว่ยสามารถรวมอยู่ในการทำข้อตกลงของการเจรจาการค้ากับจีนได้
ทั้งนี้ เหรินกล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า การนำบริษัทของเขามาใช้ในการต่อรองถือเป็น “ เรื่องตลกมาก” โดยเขากล่าวว่า “ เราเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าสหรัฐฯ – จีนได้ยังไง ?” .