ว่างงานสหรัฐฯลด ชี้ตลาดงานยังแกร่ง
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการคนว่างงานลดลงเกินคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ให้เห็นความแข็งแกร่งของตลาดงาน แม้เศรษฐกิจชะลอตัว
โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งได้รับแรงหนุนชั่วคราวจากการส่งออกที่ผันผวน และยอดสินค้าคงคลังในไตรมาสแรก กำลังสูญเสียโมเมนตัม หลังจากปีที่แล้วมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยการลดภาษี แต่การใช้จ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้นเริ่มอ่อนแรงลง
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ยอดยื่นขอสวัสดิการจากรัฐสำหรับคนว่างงานลดลง 1,000 คนลงมาอยู่ที่ 211,000 คนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ค. โดยข้อมูลของสัปดาห์ก่อนหน้านี้ไม่มีการปรับแก้ไข ทั้งนี้ ยอดยื่นขอสวัสดิการลดลงต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว
ขณะที่โพลนักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดยื่นขอสวัสดิการจะเพิ่มเป็น 215,000 คนในสัปดาห์ล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ดัชนีล่วงหน้าของตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลดลง และเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงต่อตะกร้าสกุลเงินอื่นๆ หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลนี้
อัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี ชี้ให้เห็นถึงสภาพตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจกำลังเริ่มปรับลดเป็นขาลง
ยอดค้าปลีกและการผลิตในโรงงานลดลงในเดือนเม.ย. ขณะที่ตลาดที่พักอาศัยเริ่มอ่อนแรงลงเป็นส่วนใหญ่
มีการประเมินว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในไตรมาส 2 จะต่ำกว่า 2.0% ต่อปี โดยเศรษฐกิจเติบโต 3.2% ในไตรมาสแรกของปีนี้
ข้อมูลการยื่นขอสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วครอบคลุมรายงานการจ้างงานในเดือนพ.ค.สำหรับงานที่ไม่ใช่การเกษตร
ค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของการยื่นคำร้องเพิ่มขึ้น 18,750 คน ระหว่างการสำรวจช่วงเดือนเม.ย.- พ.ค. ชี้ให้เห็นตัวเลขการจ้างงานที่ทรงตัว หลังจากการจ้างงานเพิ่มขึ้น 263,000 อัตราในเดือนเม.ย.โดยตัวเลขการว่างงานอยู่ที่ 3.6%
รายงานการยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ชี้ให้เห็นถึงจำนวนคนทียื่นขอรับสวัสดิการหลังสัปดาห์แรกเพิ่มขึ้น 12,000 คนเป็น 1.68 ล้านคนสำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ค.
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ของการยื่นคำร้องใช้สิทธิอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 5,500 คนเป็น 1.67 ล้านคน