คร่า 15 ชีวิตหลังยิงต่อสู้ในศรีลังกา
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และมีผู้ต้องสงสัย 2 ราย หรือมากกว่านั้นที่หลบหนี หลังเกิดเหตุยิงต่อสู้ระหว่างตำรวจและกลุ่มติดอาวุธทางตะวันออกของศรีลังกา
ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า มีระเบิดดังขึ้น 3 ครั้งในระหว่างการยิงต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ต้องสงสัยในบ้านหลังหนึ่งในเมืองเซนธามารูธู , กัลมูไน ขณะที่ทางการระบุว่า ยึดของกลางได้ทั้งระเบิด ตลับลูกปืนระเบิดกลม 100 ตลับ เครื่องแบบของกลุ่ม ISIS และธงได้จากในบ้าน ซึ่งดูจะเป็นเหมือนโรงงานผลิตระเบิด หรือที่เก็บอาวุธ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามไล่ล่าตัวผู้ต้องสงสัย หลังเกิดเหตุโจมตีเมื่อวันอีสเตอร์ในวันที่ 20 เม.ย. คร่าชีวิตเหยื่อผู้บริสุทธิ์ถึง 253 ราย รวมทั้งผู้ที่อยู่ในพิธีสวดภาวนาในโบสถ์
National Tawheed Jamath (NTJ) ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศ ถูกกล่าวโทษว่าเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุ แต่กลับเป็นกลุ่ม ISIS ที่อ้างความรับผิดชอบ แต่ยังไม่พบหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้ก่อเหตุและกลุ่มก่อการร้าย
ในบรรดาผู้เสียชีวิต 15 รายในบ้านหลังการต่อสู้ มี 6 รายที่ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย และ 9 รายเป็นพลเมือง ซึ่งรวมทั้งเด็ก 6 ราย พันเอกอรุนา จายาเซการากล่าว
ตำรวจกำลังสอบสวนถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลเมืองกับกลุ่มก่อการร้ายต้องสงสัย
ผู้ต้องสงสัยที่บาดเจ็บหนึ่งรายหลบหนีไปด้วยรถจักรยานยนต์ และกลุ่มก่อการร้ายต้องสงสัยอาจหลบหนีด้วยเช่นกัน จายาเซการากล่าว
1 ใน 6 ผู้ต้องสงสัยที่เสียชีวิตคือโมฮัมเหม็ด นียาส เป็นสมาชิกของกลุ่ม NJT จากแถลงการณ์ของกองทัพก่อนหน้านี้ นียาสเป็นลูกเขยของซาห์ราน ฮาชิม ผู้นำในการโจมตีวันอีสเตอร์
มีการประกาศเคอร์ฟิวในเมืองกัลมูไน ชาวาลาเกด และซัมมันธูไรหลังเกิดเหตุยิงต่อสู้
ทางการศรีลังกาพยายามทลายรังกบดานของผู้ต้องสงสัยที่อาจก่อเหตุร้ายอีก นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเหกล่าวกับสื่อ CNN เมื่อวันที่ 25 เม.ย.
และในวันที่ 26 เม.ย. ประธานาธิบดีศรีลังกาประกาศ “ปฏิบัติการค้นหาครั้งสำคัญ” ในประเทศ
“ ทุกครัวเรือนในประเทศต้องถูกตรวจสอบ” ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนากล่าวในการแถลงข่าว “ จะมีการตรวจสอบรายชื่อผู้อยู่อาศัยถาวรทุกบ้านเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีบุคคลที่ไม่รู้จักอาศัยอยู่”
พิธีกรรมในโบสถ์ถูกระงับในศรีลังกา มัลคอล์ม รานจิธ อาร์คบิชอปแห่งโคลัมโบประกาศเมื่อวันที่ 26 เม.ย. โดยท่านระบุว่าเพื่อความปลอดภัยของชาวคริสต์
รัฐบาลขอให้ชาวมุสลิมละหมาดอยู่ในบ้าน และมัสยิดหลายแห่งปิด อย่างไรก็ตาม มัสยิดบางแห่งฝ่าฝืนโดยเปิดให้ละหมาดช่วงกลางวัน
ทั้งศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามเป็นศาสนาของชนกลุ่มน้อยในศรีลังกา คิดเป็นน้อยกว่า 10% ของประชากรทั้งประเทศ โดยประชากรส่วนใหญ่ของศรีลังกานับถือศาสนาพุทธ.