SCN ทุบสถิตินิวไฮ โตเพิ่ม 400% ประกาศปี 66 จ่ายปันผลต่อเนื่อง
SCN ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พลังงานทดแทน และขนส่งแบบครบวงจร โชว์กำไรรอบปี 2565 โตพุ่ง 346 ล้านบาท ฝ่าปัจจัยลบ ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจระยะยาว ลั่นจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง
นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทฯ สามารถทำกำไรเติบโตได้สุทธิ นิวไฮ 346 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 400 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สวนทางกับวิกฤติการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 และภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก โดยมีรายได้จากการขายและบริการ ใน Q4/2022 อยู่ที่ 386 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ซึ่งทำให้ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 569 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 81%
“บริษัทฯ ยังคงมีรายได้ และเติบโตเพิ่มขึ้น แม้จะอยู่ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ธุรกิจพลังงานนั้นเป็นปัจจัยสำคัญต่อมนุษย์ ทำให้บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบมาก และสามารถคว้ากำไร รวมถึงสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่องได้ โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการที่บริษัทฯ ได้มีการขยาย และปรับเปลี่ยนโครงสร้างของธุรกิจ เพื่อพร้อมต่อการเติบโตในอนาคต และมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาตามแผนการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยที่ได้ให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียน และเพื่อสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน” ดร.ฤทธี กล่าว
นอกจากรายได้จากการขายและบริการแล้วที่ผลักดันให้บริษัทฯเติบโตแล้ว ยังมีรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโต โดยมีรายได้อยู่ที่ 867 ล้านบาท ในส่วนธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ อะไหล่ และซ่อมบำรุงรถโดยสารปรับอากาศ มีรายได้อยู่ที่ 162 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน อยู่ที่ 73 ล้านบาท นอกจากนี้สำหรับธุรกิจขนส่งและอื่นๆ มีรายได้อยู่ที่ 297 ล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของรายได้อื่นๆ ของปี 2565 นั้นอยู่ที่ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทในเครือกู้ยืม และรายได้อื่นๆ ใน Q4/2022 เท่ากับ 41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% อันเนื่องมาจากมีการรับรับรู้มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน สำหรับสิทธิในการขายหุ้นคืน (Options) รวมถึงการได้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม อยู่ที่ 49 ล้านบาท
นายฤทธี กล่าวถึงความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จับมือกับ 2 บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ จากประเทศญี่ปุ่น ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจ iCNG และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ และมีผลงานจากโครงการซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้นอีก 6 โครงการ รวมมีกำลังการผลิตในมือ 24 เมกะวัตต์ และโกยกำไรจากอัตราค่าไฟฟ้า (Ft) ที่เพิ่มขึ้น 6,621.6 %
นอกจากนี้ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา COD เพิ่มอีก 6 โครงการ ทำให้ปัจจุบัน COD ไปแล้วรวม 24 โครงการ 18 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในมือทั้งหมดกว่า 24 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ SCN ยังโกยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากอัตราค่ำไฟฟ้า (Ft) ที่สูงขึ้นถึง 6,621.6 %
อีกทั้งในเครือ บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีโครงการ Private PPA ทั้งหมด ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ จึงทำให้มีการตัดจำหน่ายสินทรัพย์สำหรับโครงการที่ไม่มีการดำเนินการต่อออกทั้งหมด
รวมถึงการกลับมาอย่างยั่งยืนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) โดยบริษัทคว้างาน EPC เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ชูโรงโดยชนะประมูลงานก่อสร้างปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ จากบริษัท ปตท.น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับก๊าซ (Non-Gas) และบริษัทฯ เล็งเห็นถึงการเติบโตของการงาน EPC กลุ่ม Non-Gas นี้ในอนาคตเป็นอย่างมาก
และที่สำคัญคือ SCN ยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำด้านซ่อมบำรุงสถานีก๊าซธรรมชาติ (NGV) ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทได้รับชัยชนะในการยื่นซองประมูลงาน และขยายพื้นที่ซ่อมบำรุงสถานี (NGV) จำนวน 183 สถานี ทั่วประเทศในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงเขตภูมิภาค คิดเป็น 75% ของสัญญาซ่อมบำรุงสถานี (NGV) ทั้งหมด โดยมีระยะเวลาสัญญาทั้งหมด 2 ปี รวมมูลค่าสัญญากว่า 240 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เริ่มดำเนินงาน และรับรู้รายได้จากสัญญาใหม่นี้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป และทั้งหมดนี้ทำให้แสดงถึงศักยภาพความเป็นผู้นำของการผลิตและให้บริการด้านก๊าซธรรมชาติ (NGV) ที่ยังคงได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องจากบริษัท ปตท.
อย่างไรก็ตาม นายฤทธี ยังเผยต่อว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้ประชุมมีมติอนุมัติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.0550 บาท รวมจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 66 ล้านบาท โดยการจ่ายปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน เมษายน 2566
สำหรับในปี 2566 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่กำลังรุกฐานตลาดเพิ่ม และสิ่งสำคัญคือ SCN ยังคงตั้งวิสัยทัศน์มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ด้วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจบนความยั่งยืน พร้อมกับมองหาโอกาสตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศอยู่เสมอ ซึ่ง SCN เราเป็นบริษัทฯ ที่ไม่เคยหยุดยั้งพัฒนา เพื่อการเติบโตไปพร้อมกัน นายฤทธี กล่าวทิ้งท้าย