จ้างงานสหรัฐฯฟื้นจากต่ำสุดใน 17 เดือน
การจ้างงานในสหรัฐฯ เติบโตฟื้นตัวขึ้นจากที่เคยลดต่ำลงมากที่สุดในรอบ 17 เดือนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากอากาศที่อบอุ่นขึ้นหนุนกิจกรรมในภาคก่อสร้าง ช่วยบรรเทาความกลัวว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวดิ่งลงอย่างแรงในไตรมาสแรก
การขาดแคลนแรงงาน และผลกระทบจากตลาดการเงินที่ตึงเครียดส่งผลกระทบกับการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าการจ้างงานยังคงต่ำกว่าปี 62
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จับตามองอย่างใกล้ชิดกับรายงานการจ้างงานรายเดือนในวันที่ 5 เม.ย.ว่าจะดำเนินตามรอยการใช้จ่ายภาคก่อสร้าง และข้อมูลโรงงานที่ทำให้วอลสตรีทปรับตัวเลขประเมินการเติบโตขึ้นในไตรมาสแรก
เศรษฐกิจปรับเปลี่ยนลงมาเป็นเกียร์ต่ำ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยการลดภาษีนิติบุคคล 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลเริ่มอ่อนกำลังลง ขณะที่สงครามการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งและเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวส่งผลกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งในเดือนก.ค.จะฉลองครบรอบ 10 ปีของการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้
คาดการณ์ว่าตัวเลขการเติบโตในไตรมาสแรกจะอยู่ระหว่าง 1.4% – 2.1% ต่อปี โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 4 ของปี 61 อยู่ที่ 2.2% ลดลงมาจากไตรมาสเดือนก.ค. – ก.ย.ที่เคยเติบโตแบบพุ่งทะยานถึง 3.4%
อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานยังต่ำ โดยคาดการณ์ว่าค่าแรงต่อชั่วโมงจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.หลังจากปรับเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้ค่าจ้างต่อปีเพิ่มขึ้น 3.4% เป็นการปรับเพิ่มครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.52 เป็นต้นมา โดยค่าจ้างที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งหนุนความเชื่อมั่นการใช้จ่ายของผู้บริโภคว่าจะเร่งเครื่องขึ้นและสนับสนุนเศรษฐกิจ หลังจากการบริโภคซบเซาลงในเดือนม.ค.
ในเดือนมี.ค.ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ยกเลิกแคมเปญ 3 ปี ที่คุมเข้มนโยบายการคลัง ลดโอกาสที่จะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นในปีนี้ หลังจากมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นถึง 4 ครั้งในปี 61
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการเติบโตของงานเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 งานในปีนี้ การจ้างงานที่ไซต์ก่อสร้างคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากลดฮวบลง 31,000 อัตราในเดือนก.พ. นับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.56 โดยคาดว่าค่าตอบแทนภาคสันทนาการและโรงแรมจะกลับมาเพิ่มขึ้นหลังซบเซาลง
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าภาคการผลิตจะครบรอบ 20 เดือนที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อเนื่องจนถึงเดือนมี.ค.ถือเป็นช่วงเวลาเติบโตที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีก่อน แต่แนวโน้มของภาคส่วนนี้ดูจะเติบโตไม่มาก เนื่องจากผู้ผลิตยานยนต์ประกาศลดพนักงานเพื่อรับมือกับยอดขายที่ลดลง.